ชาวไทยเชื้อสายจีนและประชาชนทั่วไปในอำเภอศรีราชาเดินทางมาร่วมงานเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ที่โรงเจศรีราชา เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ตัวเองและครอบครัวอย่างคึกคัก
วันที่22 กันยายน 2553 เวลา 19.00 น. ที่โรงเจสว่างประทีปธรรมสถาน ศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายฉัตรชัย กำจรกิจการ นายกสมาคมพุทธมามกสว่างประทีปธรรมสถาน ศรีราชา เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะกรรมการได้จัดพิธีไหว้พระจันทร์ ขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีชาวไทยเชื้อสายจีนและประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอศรีราชาและใกล้เคียงได้ต่างกันพาบุตรหลานและญาติพี่น้องมาไหว้พระจันทร์ที่ทางโรงเจ ได้จัดขึ้นด้วยการนำขนมไหว้พระจันทร์ ชุดเทพเจ้า ผลไม้ ขนมเปี้ยะ แป้งหอม น้ำอบ และอีกหลายอย่างมาทำพิธีไหว้พระจันทร์กันในวันนี้ ซึ่งในวันนี้ฟ้าเปิดพระจันทร์เต็มดวงทำให้ประชาชนต่างพากันไหว้พระจันทร์ด้วยความปลื้มปิติกับเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ในปีนี้ ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ตามจันทรคติ ดังนั้น จึงเรียก ว่าเทศกาลเดือนแปด ตรงกับเดือนกันยายนของไทยเรา พร้อมกับยังเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญเทศกาลหนึ่ง ของชาวจีน ซึ่งอยู่ในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงและเป็นธรรมเนียมของชาวจีนมาตั้งแต่โบราณว่าจะไหว้พระจันทร์ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ที่คนจีนเรียกว่า "จงชิวเจี๋ย" เพราะอยู่ในช่วงกลางของฤดูใบไม้ร่วง ที่มีตำนานเล่าขานมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว โดยบรรยากาศภายในงานเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ที่โรงเจค่อนข้างที่จะคึกคักมีชาวไทยเชื้อสายจีนพร้อมประชาชนทั่วไปต่างพากันพาครอบครัวเข้าร่วมงานไหว้พระจันทร์กว่า 200 คน โดยผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานว่า ได้เดินทางมาไหว้พระจันทร์เป็นประจำทุกปีที่โรงเจศรีราชา ซึ่งในทุก ๆ ปี จะขอพรจากเทพเจ้าที่สถิตอยู่บนดวงจันทร์ให้ครอบครัวอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขร่างกายแข็งแรง และเจริญรุ่งเรืองกัน สำหรับประเพณีการไหว้พระจันทร์ นั้น ที่มาของ ตามบันทึกโบราณ จีนเริ่มเซ่นไหว้พระจันทร์เมื่อสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับตำนานความฝันของกษัตริย์ถังหมิงหวง เสด็จประพาสพระราชวังบนดวงจันทร์ คือในกลางดึกของคืนเดือนเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 กษัตริย์ ถังหมิงหวงบรรทมหลับไปแล้วทรงพระสุบินว่า พระองค์ลอยขึ้นไปเที่ยวชมพระราชวังบนดวงจันทร์ และได้พบเทพธิดาบนดวงจันทร์กำลังร่ายรำอยู่อย่างงดงาม ในฝันนั้น พระองค์ทรงเพลิดเพลินและเกษมสำราญเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งเมื่อตื่นพระบรรทมและทรงโปรดให้ฝันนั้นเป็นความจริง จึงมีรับสั่งให้นางสนมแต่งตัวและร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาในฝัน ตั้งแต่นั้นมาทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 พระองค์ก็รับสั่งให้จัดเครื่องเซ่นไหว้พระจันทร์ และทอดพระเนตรความงามของพระจันทร์ไปพร้อมกับการร่ายรำของนางสนม ซึ่งสำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ ภายหลังได้มีการแพร่หลายไปทั่วประเทศ และเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญเทียบเท่ากับ เทศกาลตรุษจีน อีกเทศกาลหนึ่งเลย
|