ทัพเรือไทย สิงคโปร์ เปิดฝึกร่วมสิงห์สยาม 2010 |
|
ทัพเรือไทย – สิงคโปร์ เปิดฝึกร่วมสิงห์สยาม 2010 เสริมสร้างสัมพันธภาพทางทหาร ชำนาญการยุทธ์ น่านน้ำสิงคโปร์ ผู้อำนวยการฝึกร่วมผสมสิงห์สยามทั้ง 2 ประเทศ ร่วมกันเปิดการฝึก เสริมสร้างประสบการณ์ ชำนาญการยุทธ์ คุ้นเคยทะเล ให้กำลังพลนักรบทางเรือ การตรวจค้นเรือในทะเล การค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล การยิงอาวุธพื้นน้ำ การแบ่งฝ่ายประลองยุทธ์ และการยิงอากาศยาน เพิ่มความเชื่อมั่นรักษาอธิปไตยของชาติ และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
วันนี้ (23 กันยายน 2553) นาวาเอก โฆษิต เจียมศุภกิตต์ เสนาธิการ กองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ผู้อำนวยการฝึกร่วมสิงสยาม 2010 ณ ประเทศสิงคโปร์ และนาวาเอก เงียม หอก คุณ (COL.Giam Hak Koon) ผู้บังคับการเรือ 185 กองเรือยุทธการ กองทัพเรือประเทศสิงคโปร์ ผู้แทนกองทัพเรือประเทศสิงคโปร์ ร่วมกันเป็นประธานการเปิดการฝึกร่วมผสมระหว่างกำลังพลนักรบทางเรือของกองทัพเรือไทย จากเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงตากสิน ชุดปฎิบัติการพิเศษ พร้อกำลังพลประจำอากาศยานซีฮอร์ค ประเภทปราบเรือดำน้ำ (S-70B)และกำลังพลจากเรือ RSS STEADFAST เรือ RSS VALOUR เรือ RSS RESILIENCE กำลังพลประจำอากาศยานเดือนภัยทางอากาศ แบบ E- 2C และเครื่องบินขับไล่แบบ F – 16 ซึ่งเป็นเขี้ยวเล็บของกองทัพเรือประเทศสิงคโปร์ นาวาเอก โฆษิต เจียมศุภกิตต์ ผู้อำนวยการฝึกฝ่ายไทย กล่าวว่า การฝึกร่วมในครั้งนี้ กองทัพเรือประเทศสิงคโปร์มีความปรารถนาในการที่จะทำการฝึกอากาศยานร่วมกับเรือให้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมายังมีการฝึกน้อยมาก ทำให้กำลังพลไม่คุ้นเคยกับการใช้อากาศยานร่วมกับเรือมากนัก การฝึกร่วมสิงห์สยามจะต้องมีการพัฒนาไปสู่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่นการฝึกสะกัดกั้นอากาศยาน การต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติ เนื่องจากประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่เป็นเกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจรุ่งเรืองในระดับแนวหน้าของโลก มีการค้า การท่องเที่ยว จึงไม่ต้องการให้เกิดปัญหาในเรื่องของความไม่ปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน นักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่เดินทางเข้ามาในประเทศสิงคโปร์ในขณะนี้ และกล่าวอีกว่า การฝึกร่วมกันนอกจากจะเป็นการกระชับสัมพันธภาพอันดี ระหว่างสองประเทศแล้ว ยังเป็นโอกาสดีให่กำลังพลทั้งสองประเทศ ได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฎิบัติงานสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะการใช้ภาษาในการติดต่อประสานงานเพื่อเกิดปัญหาในท้องทะเล อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภารกิจของกองทัพเรือทั้งสองประเทศในอนาคต ฉะนั้นการฝึกสาขาปฎิบัติการทางเรือในเรื่องของ การคุ้มกัน ไล่ล่า ค้นหา ทำลายศัตรู ล้วนแล้วงเป็นการสร้างสมประสบการณ์ การแลกเปลี่ยนการยุทธ์ และการพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยี การติดต่อสื่อสารในระดับสากล ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อป้องกันการผิดพลาดในเรื่องของการสื่อความหมาย ถ้ามีการปฎิบัติภารกิจร่วมกันในทะเล หรือมีการติดต่อสื่อสารในการให้ความช่วยเหลือเรือประมงหรือภัยพิบัติอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว |