ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ อำลาหน่วย |
|
ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ อำลาหน่วยส่งมอบหน้าที่ให้ผู้บัญชาการท่านใหม่ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบอำลาหน่วยไปดำรงตำแหน่งรองเสนาธิการทหาร อัตตราพลเรือเอก ส่งมอบหน้าที่ต่อผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือฝ่ายยุทธบริการ ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ท่านที่ 45 เป็นผู้ขับเคลื่อนหน่วยหลักของกองทัพเรือ สู่ความเจริญก้าวหน้า
วันนี้ ( 30 ก.ย. 53) ที่ กองบังคับการ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มีการประกอบพิธีรับ-ส่ง หน้าที่ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ตามที่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องให้นายทหารรับราชการ กองทัพเรือ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ โดย พลเรือโท ธีรวัฒน์ ศรีสถาพร ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นรองเสนาธิการทหาร อัตราพลเรือเอก และ พลเรือโท ชัชรินทร์ ชูศรี ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือฝ่ายยุทธบริการ เป็นผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน 2553 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พลเรือโท ธีรวัฒน์ ศรีสถาพร ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายในสังกัดที่ได้ร่วมปฏิบัติงานสำเร็จตามวัตถุประสงค์เป็นผลดีต่อทางราชการ ตลอดระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่ง จนได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และขอให้กำลังพลทุกนายได้ให้ความร่วมมือกับผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบท่านใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถและเคยปฏิบัติราชการในหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ มาแล้วหลายหน่วย ทั้งทางด้านกำลังรบ ในตำแหน่งที่สำคัญ เช่น ผู้บังคับการเรือหลวงลันตา ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบก และรองผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ และตำแหน่งสุดท้ายก่อนมารับตำแหน่งผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ท่านดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือฝ่ายยุทธบริการ จึงนับได้ว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาท่านจะเป็นผู้นำฐานทัพเรือสัตหีบไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน พลเรือโท ชัชรินทร์ ชูศรี ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ท่านใหม่ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า การเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ในครั้งนี้ จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ทั้งจะปกครองบังคับบัญชาด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม และหวังว่าคงจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากข้าราชการในสังกัดฐานทัพเรือสัตหีบ ด้วยเช่นเดียวกัน การที่หน่วยจะก้าวหน้าต่อไปในภายภาคหน้า จะไม่สามารถขับเคลื่อนได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกคน เปรียบเสมือนหัว แม้จะมีสมองไว้คิด แต่หากขาดแขน และขา ก็คงจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว |