สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระรับเต่าดาวอินเดียจำนวน 275 ตัวมาดูแลหลังด่านตรวจสัตว์ป่าทาอากาศยานสุวรรณภูมิ ูจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย

นายทรงกรด ภู่ทอง หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี   เปิดเผยว่าสถานีได้รับเต่าดาวอินเดียจำนวนกว่า  275 ตัว จากการจับกุมของด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาเก็บรักษาและตรวจสุขเลี้ยงดู สำหรับเต่าดาวอินเดีย (Indian star tortoise) เป็นเต่าบกในถิ่นกาฬทวีป ที่จัดว่า เป็นเต่า ที่มีขนาดเล็กที่สุด ในGenusนี้ มันมีลักษณะของลวดลายบนกระดอง คล้ายรูปดาวกระจาย เลยเป็นที่มาของชื่อของ เต่าดาวอินเดีย เต่าดาวอินเดีย จัดว่าเป็นเต่า ที่ค่อนข้างเลี้ยงยาก และป่วยง่ายกว่าเต่าบกชนิดอื่น เนื่องจากในธรรมชาติ เต่าดาวอินเดียวอาศัยอยู่ในพื้นที่แห้ง เขตร้อน จึงต้องอาศัย อุณหภูมิที่เหมาะสม และสภาพอากาศที่ไม่ชื้นแฉะ เพราะฉะนั้น แสงแดดในธรรมชาติ จึงจำเป็นต่อการ อยู่รอดของมันมาก หรือ หลอดไฟ UV เพื่อใช้ให้ความอบอุ่นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับดาวอินเดีย เมื่อถูกนำมาเลี้ยง คือ หญ้า ผักสดต่างๆ และผลไม้บ้างบางเวลา แต่มันไม่ชอบอาหารที่ชุ่มน้ำเยอะๆ และควรมีถาดใส่น้ำไว้ในสถานที่ เลี้ยงด้วย นอกจากนี้ ควรให้วิตามินเสริม คลุกอาหาร อาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย เต่าตัวผู้ขนาดตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไป จะสามารถมีเชื้อที่จะผสมพันธุ์ได้ ส่วนตัวเมียขนาด 7 นิ้ว ก็จะสามารถให้ ไข่เต่าได้ โดยช่วงติดสัตว์ เต่าดาวอินเดียตัวผู้จะ มีนิสัยก้าวร้าว รุกรน และจะผสมพันธุ์ช่วงเดือนพฤษภาคม - ตุลาคม จึงเริ่มฤดูกาล วางไข่ เต่าดาวอินเดียตัวเมีย จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้มาก โดยตัวเมียยาวประมาณ 25-30 cm ส่วนตัวผู้ขนาดยาว 20 cm เมื่อโตเต็มที่ เต่าดาวอินเดีย ถูกจัดอยู่ในบัญชี Cites II ที่ปัจจุบันประชากรลดลงจากเดิม เนื่องจากถิ่นที่อยู่ ในธรรมชาติ ถูกทำลายและที่สำคัญคือ การถูกจับเพื่อนำมาค้าขายในตลาด สัตว์เลี้ยง