โครงการ ชุมชนปลอดภัย ขับ-ซ้อนมอเตอร์ไซด์ สวมใส่หมวกนิรภัย100% |
|
โครงการ “ชุมชนปลอดภัย ขับ-ซ้อนมอเตอร์ไซด์ สวมใส่หมวกนิรภัย100%”เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้และถูกต้องตามกฏจราจร
บริษัทอีโนเว่ รับเบอร์(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ไอ.อาร์.ซี และสมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย ภาคเอกชนและองค์กรเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ได้เห็นความสำคัญของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ จึงได้ร่วมกับเทศบาลนครแหลมฉบังร่วมกับสถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจึงได้ร่วมจัดให้มีโครงการ “ชุมชนปลอดภัย ขับ-ซ้อนมอเตอร์ไซด์ สวมหมวกนิรภัย100 %” โดยมีนายภูษิต แจ่มศรี รองปลัดเทศบาลและรักษาการแทนปลัดเทศบาลนครแหลมฉบัง เป็นประธานในงาน ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นให้ความรู้เรื่องกฏหมายและเครื่องจราจรตลอดจนการขับขี่อย่างถูกต้องกับผู้เข้าร่วมงานพร้อมทั้งแจกหมวกกันน๊อกผู้ใหญ่และเด็กที่มีมาตรฐานแก่ผู้เข้าร่วมรณรงค์ครั้งนี้ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีกับชาวเทศบาลนครแหลมฉบังและใกล้เคียงต่อไป ซึ่งการเปิดโครงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สวมใส่หมวกนิรภัย100%นั้น ได้ตระหนักดีว่า มิใช่แค่เป็นเพียงการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เท่านั้น แต่ต้องการให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสวมหมวกนิรภัยอย่างเต็ม 100% ให้ถูกต้องตามกฏจราจรและเพื่อความปลอดภัยในชีวิตตนเองและครอบครัวที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าสถิติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรบนท้องถนนทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนถึง 1.3 ล้านคน หรือทุกนาทีจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 25 คน และทำให้มีผู้พิการถึงปีละ 50 ล้านคน สำหรับประเทศไทย สถานการณ์อุบัติเหตุยังน่าเป็นห่วง โดยในปี 2552 มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 10,171 คน ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ โดยอัตราของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 60-70% เป็นกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และไม่สวมหมวกกันน็อก โดยจะเป็นกลุ่มเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่เป็นกลุ่มที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด พบว่าผู้ขับขี่จักรยานยนต์ในประเทศไทย เริ่มขี่ตั้งแต่อายุ 9-14 ปี สอดคล้องกับอัตราการจับกุมการกระทำผิดกฎจราจร ที่มีการจับกุมผู้ไม่มีใบอนุญาตขับขี่จำนวนมาก เพื่อร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ทางบริษัทอีโนเว่ รับเบอร์(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ ไอ.อาร์.ซี. และสมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย ภาคเอกชนและองค์กรเครือข่ายลดอุบัติเหตุ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันจัดโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อรณรงค์ให้กลุ่มพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และให้บุตรหลานซ้อนท้าย ได้เห็นถึงอันตรายของการไม่สวมหมวกนิรภัย และหันมาให้ความสำคัญในการสวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายจักรยานยนต์ ให้สอดคล้องกับปี 2554-2563 ที่ประเทศไทยจะประกาศให้เป็นปีทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด" |