ตำรวจพัทยาจับแก๊งรัสเซียอุ้มฆ่าฝังดินนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาติเดียวกัน   

            แต่ระหว่างนั้นนายอะรามซีส ได้ไหวตัววิ่งหลบหนีเข้าไปในโรงเรียน และชักอาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาดออกมาจะยิงใส่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่แขนขวา และต้นขาขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนนำตัวส่ง รพ.บางละมุง ให้แพทย์รักษา พร้อมกับอายัดตัวไว้ดำเนินคดี ตรวจค้นภายในรถของผู้ต้องหาพบอุปกรณ์ขุดดิน น้ำมันเบนซิน และไฟสปอร์ตไลท์ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมนายราซีส ซากานอฟ มาสอบเค้นอยู่นาน 3 ชั่วโมง จึงเปิดปากยอมรับสารภาพว่า เมื่อกลางดึกของวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับนายเซอร์เก้ อะเล็กซานดร็อฟ อายุ 34 ปี สัญชาติรัสเซีย และนายอะรามซีส ผู้ต้องหาที่ถูกยิงบาดเจ็บ วางแผนลวงนายวิคเตอร์ กริชิน อายุ 38 ปี ชาวรัสเซีย นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของบริษัท อาโก้ จำกัด ออกจากห้องพักในวิวทะเลคอนโดมิเนียม โครงการ 5 ย่านชายหาดจอมเทียน แล้วจับกุมตัวไปขังไว้ในบริษัทของนายวิคเตอร์ ตั้งอยู่ในซอย 6 ถ.พระตำหนัก พัทยาใต้ และบังคับถามรหัสบัตรเอทีเอ็ม ก่อนที่นายเซอร์เก้ ซึ่งเป็นเกย์คู่ขาของนายวิคเตอร์ จะใช้ของแข็งทุบศีรษะและใช้สายไฟรัดคอจนหมดสติ จากนั้นได้นำร่างยัดใส่กระสอบ ขนขึ้นรถยนต์ขับไปบนเขาชีจรรย์ หลังไร่องุ่นซิลเวอร์เลค พื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้วใช้อาวุธปืนยิงซ้ำอีก 2 นัดเพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตและขุดหลุมฝังร่างอำพรางคดี โดยตนกับนายอะรามซีส ได้รับค่าจ้างจากนายเซอร์เก้ ในการช่วยขนย้ายศพ เป็นเงินจำนวน 1 หมื่นดอลล่าห์ พร้อมกับได้บัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดใช้ จนมาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว

            ต่อมาเวลา 03.30 น. กำลังตำรวจได้คุมตัวนายราซีส พร้อมด้วยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ เดินทางไปยังจุดฝังศพ พื้นที่หมู่ 7 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากถนนสายเขาชีจรรย์-ยุทธศาสตร์ 331 เข้าไปตามทางลูกรัง หลังไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ลัดเลาะไปตามเชิงเขาลูกเตี้ยๆ ระยะทางกว่า 4 กม. และต้องจอดรถเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขาอีกประมาณ 500 เมตร เนื่องจากรถธรรมดาไม่สามารถขับขึ้นไปได้ โดยนายราซีส ได้พาไปชี้จุดฝังศพนายวิคเตอร์ ก่อนที่หน่วยกู้ภัยฯ จะทำการขุดศพขึ้นมาในสภาพขึ้นอืด สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ ที่ลำคอมีสายไฟรัดอยู่จนลิ้นจุกปาก บริเวณไหล่ซ้ายมีรูกระสุนจำนวน 2 รู และกะโหลกศีรษะแตก จึงเก็บศพไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อหารายละเอียดการตายอีกครั้งพ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกของวันที่ 14 ต.ค. มารดาของนายวิคเตอร์ ได้เข้าแจ้งความว่าบุตรชายของตัวเองได้หายไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย คาดว่าน่าจะเกิดเหตุร้าย ภายหลังจึงได้ส่งชุดสืบสวนออกหาข่าว พร้อมกับเช็คข้อมูลความเคลื่อนไหวการใช้บัตรเอทีเอ็มของนายวิคเตอร์ พบว่าหลังจากหายตัวไปจนถึงวันที่ 19 ต.ค. บัตรเอทีเอ็มของนายวิคเตอร์ ได้ถูกตระเวนกดเงินจากตู้ในเมืองพัทยาเป็นเงินรวม 8 แสนบาท เมื่อเจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีชายชาวรัสเซียจำนวน 2 คน เป็นคนนำบัตรของนายวิคเตอร์ ไปกด จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อส่งข้อมูลให้กับตำรวจ หากมีผู้นำบัตรเอทีเอ็มของนายวิคเตอร์ ไปกดอีก กระทั่งพบว่าทั้งคู่ได้นำบัตรไปกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มหน้าโรงเรียนบ้านทุ่งกราด จึงนำกำลังไปจับกุมดังกล่าว ส่วนการที่ผู้ต้องหาทั้งคู่ซัดทอดว่านายเซอร์กี้ เกย์คู่ขาของผู้ตายเป็นคนลงมือฆ่าและจ้างให้นำศพไปทิ้ง จากการเชิญตัวมาสอบปากคำเบื้องต้นยังไม่พบพิรุธอะไรและทางตำรวจยังไม่สามารถแจ้งข้อหาใดๆ ได้ เบื้องต้นจึงได้ปล่อยตัวไป อย่างไรก็ตาม ภายหลังจะได้ทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง ว่าคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป.

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว