เพื่อนลูกชายสุดแสบขโมยพระเครื่องหลักแสนไปขาย |
|
เพื่อนลูกชายสุดแสบขโมยพระเครื่องหลักแสนไปขายหลักร้อยเอาเงินไปซื้อยาบ้าถูกตำรวจรวบตัวได้
เมื่อเวลา 12.00 น.( 20 ต.ค.53) ร.ต.อ.สมพงษ์ อติวงศ์ธาดา ร้อยเวรสภ.ศรีราชาได้รับแจ้งจากนายวิเชียร จิโน อายุ36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53หมู่ 11 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า นายอำนาจ คงนอก อายุ 24 ปี กับนายอ่อน อายุ 25 ปี สัญชาติลาว ซึ่งเป็นเพื่อนกับลูกชายได้มานอนที่บ้านแล้วพระเครื่องทั้งพระเหรียญและพระผง กว่า 20 องค์ที่เป็นของมรดกตกทอดมาจากต้นตระกูลทางภาคเหนือซึ่งเป็นพระเก่าแก่ประเมินค่าไม่ได้หายไป ซึ่งสงสัยว่าเพื่อนทั้ง 2 คนของลูกชายคงจะขโมยเอาไป ให้ตำรวจช่วยติดตามตัวเพื่อนลูกชายทั้ง 2 คนที่ทำงานที่หลังวัดไร่กล้วย ในพื้นที่ ต.สุรศักดิ์ มาสอบสวนด้วย หลังจากรับแจ้งจึงสั่งการให้ด.ต.สายรุ้ง คงดี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจนาพร้าว ไปติดตามตัว ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน จนพบนายอำนาจกำลังทำงานอยู่ที่หลังวัดไร่กล้วย จึงเชิญตัวตัวมาสอบสวน ซึ่งก็ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ขโมยพระเครื่องดังกล่าวที่บ้านผู้เสียหายจริงโดยร่วมมือกับนายอ่อนเพื่อนกันซึ่งเป็นสัญชาติลาวและได้หายไปตั้งแต่นำพระเครื่องไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งกัน และพระเครื่องอีก 6 องค์ที่จำหน่ายไม่ได้ได้นำไปซุกซ่อนไว้ที่ป่าหญ้าข้างที่พักหลังจากนั้นจึงได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอาพระเครื่อง ส่วนเงินที่จำหน่ายพระให้กับเซียนพระที่แผงพระริมถนนสายศรีชา-ชากค้อไปประมาณ 7 องค์จำนวน 800 บาทได้แบ่งกับเพื่อนแล้วได้ไปซื้อยาบ้ามาเสพเนื่องจากติดยาบ้างอมแงม และไม่รู้ว่าพระที่นำไปขายนั้นมีราคาสูงเป็นหลักแสนเห็นว่าคนรับซื้อให้ราคาแค่พระเครื่องไม่กี่องค์ก็รู้สึกพอใจที่จะได้นำเงินไปซื้อยามาเสพ ซึ่งนายวิเชียร จิโน ผู้เสียหายเจ้าของพระได้กล่าวว่าพระเครื่องที่ตำรวจติดตามกลับคืนมาได้นั้นแค่ 6 องค์ ส่วนที่ถูกนายอำนาจ นำไปขายให้แก่แผงพระนั้นมี เหรียญรูปไข่ครูบาศรีวิชัยรุ่น 1 เหรียญแตงโมหลวงพ่อเกษม พระรอดลำพูน สมเด็จสรงน้ำวัดเขาบางทราย เหรียญหลวงปู่แหวนรุ่นแรก และพระเครื่องเก่าที่จำชื่อไม่ได้ อีก2-3 องค์ โดยพระที่ถูกนำไปขายนั้นเป็นพระมรดกที่ตกทอดของครอบครัว ราคาซื้อขายหลักแสนบาทเนื่องจากมีเซียนพระเครื่องเคยไปติดต่อขอซื้อแต่ตนนั้นไม่ขายให้เนื่องจากเป็นของต้นตระกูลและที่บ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนเงิน ซึ่งไม่คาดคิดว่าเพื่อนลูกชายที่เข้านอกออกในกินนอนในบ้านจะขโมยพระเก่าแก่ที่หวงแหนและประเมินค่ามิได้ไปขายแค่หลักร้อยเพียงที่จะเอาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งเสียดายมากเนื่องจากเป็นคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งเมื่อทางตำรวจไปติดตามเจ้าของแผงพระที่รับซื้อพระเครื่องดังกล่าวจากนายอำนาจหัวขโมยรายนี้ก็ปรากฏว่าไม่พบตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีในข้อหารับซื้อของโจร หลังจากนั้นจึงนำตัวนายอำนาจส่งดำเนินคดีตามกฏหมายในข้อหาลักทรัพย์และจะได้ติดตามตัวนายอ่อนชาวลาวที่ได้หายไปมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป |