วิน จยย.มอบตัวปฏิเสธเปล่าปล้นร้านทอง

วินจยย.เข้ามอบตัวคดีปล้นร้านทอง ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างวันเกิดเหตุเพื่อนยืมรถไปไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ตำรวจมีพยานยืนยันชัด เห็นยืนโทรศัพท์อยู่ใกล้ร้านทอง

       ความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 พ.ย.53 นายบุญเลี่ยม ลือชัยลาม อายุ 35 ปี พร้อมด้วย นายสุเทพ จันทะแจ่ม ทนายความ และแม่ยาย (ไม่ขอเผยชื่อ) เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ศุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก. พ.ต.ท.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางละมุง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยนายบุญเลี่ยม ให้การปฏิเสธว่า ในวันเกิดเหตุได้ให้เพื่อนชื่อนายอ้น (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ซึ่งพักอาศัยอยู่ห้องติดกันที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในซอยเนินพลับหวาน ยืมรถ จยย.ไป และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นในครั้งนี้แต่อย่างใด พอทราบข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่ารถ จยย.ของตัวเองไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเดินทางไปรับแม่ยายที่ กทม. และพากันไปตั้งหลักรอทนายที่บ้านญาติ ใน ต.เตาถ่าน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนที่จะเข้าพบตำรวจเพื่อให้ปากคำในฐานะพยาน โดยไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองถูกออกหมายจับ

ด้าน พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า หลังตำรวจได้ชื่อเจ้าของรถคันก่อเหตุและทราบที่อยู่แน่ชัด จึงพยายามติดตามตัวมาให้ปากคำ แต่นายบุญเลี่ยม กลับเดินทางไปหาแม่ยายที่ กทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้โทรศัพท์ไปหาแม่ยายเพื่อช่วยเกลี้ยกล่อม และได้รับการนัดหมายว่าจะพานายบุญเลี่ยม เข้าพบตำรวจในช่วงเช้าของวานนี้ ( 1 พ.ย.) แต่ก็ไม่มาตามนัด กระทั่งตำรวจมีพยานปากเอกซึ่งระบุว่าเห็นนายบุญเลี่ยม ยืนโทรศัพท์อยู่หน้าร้านขายดอกไม้ ใกล้เคียงกับร้านทองที่เกิดเหตุ และขับรถ จยย.วนเวียนดูลาดเลาอยู่หลายรอบ จึงขออำนาจศาลออกหมายจับดังกล่าว เบื้องต้นนายบุญเลี่ยม ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนา จึงส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้สอบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งที่กำลังหลบหนีต่อไป

อุดมเกียรติ  ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว