Home
|
สอนธรรมกลางแสงจันทร์ เพ็ญเดือน 12 |
|
พระสงฆ์สอนธรรมกลางแสงจันทร์ เพ็ญเดือน 12 แม่ชี อุบาสก อุบาสีกา วัดทรงเมตตาวนาราม สัตหีบ สวดขอขมาพระแม่คงคา
พระอาจารย์ บุญส่ง อุปสโม ประธานสงฆ์วัดทรงเมตตาวนาราม เดินสายสอนธรรมนอกวัดท่ามกลางแสงจันทร์เต็มดวง คืนเพ็ญ เดือน 12 พร้อมแม่ชี อุบาสก อุบาสีกา สวดมนต์และขอขมาพระแม่คงคา ลอยกระทง ปล่อยปลา เต่า หอย ปลาไหล กลางทะเลสาบสวนนงนุชพัทยา เมื่อเวลา 00.01 น.ของวันที่ 22 พฤศจิกายน 2553 พระอาจารย์ บุญส่ง อุปสโม ประธานสงฆ์วัดทรงเมตตาวนาราม ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้พาแม่ชี อุบาสก อุบาสีกา ที่มาถือศีล ปฎิบัติธรรมในช่วงเทศกาลลอยกระทง วันเพ็ญ เดือน 12 เดินทางมายังสนามนันทา สวนนงนุชพัทยา ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ โดยมี นายมานิจ นารินทร์รักษ์ รองผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา ตลอดจนพนักงาน คนงาน ประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้เข้ามาร่วมในพิธีสอนธรรมกลางแสงจันทร์ พร้อมทั้งได้สวดมนต์ และปล่อยชีวิตสัตว์คืนสู่ธรรมชาติ ลอยกระทงขอขมาพระแม่คงคา พระอาจารย์ บุญส่ง อุปสโม กล่าวว่า ประเพณีการลอยกระทงถือเป็นประเพณีที่มีคุณค่าต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และศาสนา กล่าวคือ ทำให้สมาชิกในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การประดิษฐ์กระทงแล้วนำไปลอยน้ำเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อแม่น้ำที่ให้ ประโยชน์สุขแก่เรา การสร้างความสามัคคีในชุมชน เช่น การร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อความสนุกสนานรื่นเริงร่วมกัน ความเอื้ออาทรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการช่วยกันรักษาความสะอาดของแม่น้ำลำคลอง และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา โดยการทำบุญให้ทาน การปฏิบัติธรรมและฟังเทศน์ด้วย ประเพณีลอยกระทงที่สืบทอดต่อกันมา มีความเชื่อหลายประการ อาทิ เป็นการบูชาพระเกศแก้วจุฬามหาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ การบูชารอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที หรือเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคาที่ใช้น้ำในการอุปโภค บริโภค รวมถึงการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำลำคลองอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการลอยเพื่อส่งของแก่ญาติที่อยู่ห่างไกล การระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว การลอยเคราะห์หรือสะเดาะเคราะห์ และการอธิษฐานขอสิ่งที่ตนปรารถนา มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งปวงจะไม่สามารถขาดน้ำได้จึงขอให้ทุกคนกล่าวขมาพระแม่คงคงด้วยประโยคที่ว่า “สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต”ข้าแต่คงคา ลูกขอวันทา ด้วยประทีปกระทง พระแม่คงคา มีความเมตตา ต่อลูกสูงส่ง คือน้ำในกาย สามส่วนมั่นคง กายจึงยืนยง ชุ่มชื่นยืนนาน และร่วมกันกล่าวว่า “พระแม่คงคา กำเนิดจากฟ้า โปรยปรายลงมา เป็นกระแสธาร เกิดเป็นแม่น้ำ หลายนามขนาน ปิง, วัง, ยม,น่าน คือเจ้าพระยา ท่าจีน, ตาปี นครชัยศรี โขง, ชี, มูล, ละหาร ห้วยหนองคลองบึง จนถึงแก่งกว๊าน น้ำใต้บาดาล อีกทั้งประปา ลูกลูกทั้งหลาย เดินทางขายค้า สำเร็จกิจจา คมนาคม นำมากินใช้ ได้ดั่งอารมณ์ ยามร้อนประพรม ชุ่มชื่นกายใจ ชำระมลทิน โสโครกทั้งสิ้น สะอาดสดใส ผุดผ่องพราวตา แลเลิศวิไล แม่น้ำรับไว้ สกปรกโสมม น้ำเสียเรือนชาน ซักผ้าล้างจาน เททิ้งทับถม ไหลลงคงคา ธาราระทม สารพิษสะสม เน่าคลุ้งฟุ้งไป วันนี้วันเพ็ญ พระจันทร์ลอยเด่น เป็นศุภสมัย ลูกจัดกระทง ประสงค์จงใจ นำมากราบไหว้ พระแม่คงคา เทวาทรงฤทธิ์ ซึ่งสิงสถิต ทุกสายธารา ทั้งผีพรายน้ำ อย่าซ้ำโกรธา ลูกขอขมา อโหสิกรรม ทำกิจใดใด อุทกภัย อย่าได้เติมซ้ำ อย่าพบวิบัติ ข้องขัดระกำ อย่าให้ชอกช้ำ น้ำท่วมพสุธา อย่าให้สินทรัพย์ ต้องพลันย่อยยับ เพราะสายธารา อย่าให้ชีวิต ต้องปลิดชีวา พระแม่คงคา รับขมาลูก เทอญ” อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุลภาพ / ข่าว
|
|
|
Date
ศุกร์, 17 พฤษภาคม 2024
|