ม็อบมิชลินประท้วงปิดโรงงาน |
|
พนักงานบริษัทสยามมิชลิน กว่าสองร้อยคนรวมตัวปิดโรงงานเพื่อกันไม่ให้พนักงานเข้าออกบริษัทฯ ระหว่างการเจรจาที่กระทรวงแรงงานไม่เป็นผล กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบร้อยนายคอยตรึงกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย
ที่บริเวณนิคมคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง พนักงานบริษัทมิชลิน จำนวนกว่าสองร้อยคนรวมตัวกันปิดถนนภายในบริเวณหน้าบริษัทสยามมิชลินจำกัด รวมทั้งประตูทางเข้าออกของบริษัทฯ ไม่ให้พนักงานเข้าออกจากบริษัทฯ ตั้งแต่เวลาประมาณ 16 นาฬิกา ของวันที่ 20 เมษายน 2552 เพื่อเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารยอมทำตามเงื่อนไข 2 ข้อ คือ ยกเลิกการหักเงินเดือน 13.04 เปอร์เซ็นต์ และรับพนักงานที่เรียกร้องทั้งหมดเข้าทำงานตามปกติโดยไม่มีความผิดใดใด ซึ่งการชุมนุมปิดถนนและประตูทางเข้าออกของบริษัทฯในครั้งนี้ ทางฝ่ายผู้ชุมนุมได้แจ้งว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการเจรจากันตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2552 มีการเจรจากับผู้บริหารถึง 8 ครั้ง ซึ่งเจรจาไม่เป็นผลสำเร็จสักครั้งเดียว โดยครั้งล่าสุดในวันนี้ ทางแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปพบกับ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และได้เจรจากับทางฝ่ายผู้บริหารอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ทางผู้ชุมนุมจึงรวมตัวกันมาปิดถนนและบริษัทฯ ดังที่กล่าวมาข้างต้น ทางฝ่ายผู้บริหารฯได้ กล่าวว่า ในวันนี้ (วันที่ 20 เมษายน 2552) ทางผู้บริหารได้เข้าไปเจรจากับทางแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมจริง แต่ระหว่างการเจรจา ในเวลาประมาณ 16 นาฬิกา กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ที่นี่ไม่ได้ไปเจรจาก็รวมตัวกันมาปิดถนนและทางเข้าออกของบริษัททั้งหมด เพื่อไม่ให้พนักงานที่ทำงานและที่กำลังจะมาทำงานได้เข้าออกภายในบริษัทฯได้ เมื่อทางฝ่ายผู้บริหารที่ไปเจรจาทราบข่าวจึงเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรจึงยกเลิกการเจรจากลางคัน และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยดูแลสถานการณ์และความสงบเรียบร้อย ซึ่งถ้าการปิดโรงงานยืดเยื้อไม่สามารถให้พนักงานของบริษัทฯที่จะมาทำงานเข้าออกได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อการผลิตของบริษัทฯ ซึ่งในตอนนี้ทางฝ่ายผู้บริหารฯกำลังพยายามหาทางแก้ไข เพื่อให้สามารถเปิดทางให้พนักงานภายในบริษัทฯได้เดินทางเข้าออกได้ และพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกันอย่างดีที่สุด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.นิทัศน์ สสิวงศ์ ผกก.สภแหลมฉบัง พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพงษ์ พงษ์พานิช รอง ผกก.ปป.สภ.แหลมฉบัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 70 นาย รวมทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทสยามมิชลินจำกัด ได้ตรึงกำลังคอยควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงอย่างถึงที่สุด คอยตรึงกำลังอยู่ทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งเจรจาให้ผู้ชุมนุมยกเลิกการปิดถนนและเปิดทางให้พนักงานเข้าออกได้ แต่การเจรจาก็ไม่เป็นผล ซึ่งการชุมนุมคาดว่าจะยืดเยื้อต่อไป ทางฝ่ายพนักงานที่ไม่สามารถเดินทางออกจากบริษัทฯได้บางคนก็มีอารมย์หงุดหงิดและโมโหบ้าง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้บริหารกันคนให้ออกไปอยู่ห่างการชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันได้ และรอผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจหาทางแก้ไขสถานการณ์ต่อไป |