ศาลจังหวัดพัทยาร่วมอำเภอสัตหีบจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทก่อนฟ้องร้องระดับอำเภอ
วันนี้ ( 16 ธ.ค. 53 ) นายสุเพียร จึงเกรียงไกร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทก่อนฟ้องร้องระดับอำเภอ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชหารแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2550 โดยมีนายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ คณะผู้บริหารศาลจังหวัดพัทยา หัวหน้าหน่วยงานราชการต่างๆ ประชาชน ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ นางสาวเพชรน้ำผึ้ง เทพพิพิธ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพัทยา กล่าวว่า ด้วย ฯพณฯ ประธานศาลฎีกาเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมและอธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 มีนโยบายด้านการพัฒนาระบบการไกล่เกลี่ยควบคู่กับการพิจารณาอรรถคดี เพื่อให้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนตามหลักการกระบวนยุตธรรมเชิงสมานฉันท์และสันติวิธีและรณรงค์ให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงซึ่งความสะดวกรวดเร็วประหยัดเวลาประหยัดค่าใช้จ่าย ถูกต้องเป็นธรรมเสมอภาคและทั่วถึงโดยสนับสนุนให้ภาครัฐนำระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟังมาใช้ในการบริหารจัดการเมื่อข้อพิพาทเกิดขึ้นซึ่งนโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับแนวนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ.2550 โดยกำหนดให้ภาครัฐต้องดำเนินตามนโยบายด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านหนึ่งคือพัฒนาระบบงานภาครัฐโดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพ คุณธรรม และจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพ และส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐใช้หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการจากแนวนโยบายด้านการบริหารราชการแผ่นดินดังกล่าวซึ่งมีการตราพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ฉบับที่ 7 พ.ศ.2550 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 และได้ประกาศกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง และกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยความผิดที่มีโทษทางอาญา พ.ศ.2553 โดยให้อำเภอมีอำนาจทำการไกล่เกลี่ยหรือจัดให้มีการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททั้งทางอาญาขึ้น ศาลจังหวัดพัทยาจึงได้ร่วมมือกับอัยการจังหวัดพัทยาและอำเภอสัตหีบจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทก่อนฟ้องระดับอำเภอในวันนี้โครงการนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้โครงการ ศาลในภาค 2 รวมพลังไกล่เกลี่ย ประจำปี 2553 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้มีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรที่ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและเผยแพร่การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในส่วนภูมิภาคเพื่อการพัฒนากระบวนการระงับข้อพิพาทในสังคมให้เป็นไปอย่างกว้างขวางและเกิดความสงบเรียบน้อยในสังคมรวมทั้งเป็นการส่งเสริมการให้มีส่วนร่วมของประชาชนให้เข้ามามีบทบาทในกระบวนการยุติธรรมโดยกระบวนการไกล่เกลี่ยซึ่งสามารถทำได้โดยง่าย สะดวกรวดเร็ว ทั่วถึงและเป็นธรรมโดยให้ชุมชนเป็นผู้ยุติความขัดแย้งด้วยตนเองและสามารถสกัดกั้นคดีความขึ้นสู่ศาลได้อีกทางหนึ่ง นายสุเพียร จึงเกรียงไกร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา กล่าวว่า ตามที่สำนักงานยุติธรรมมีนโยบายด้านการพัฒนาการอำนวยความยุติธรรมโดยมีเป้าหมายสำคัญในการที่จะยุติข้อพิพาทให้แก่ประชาชนด้วยความสะดวกรวดเร็วประหยัดเวลาประหยัดค่าใช้จ่าย ถูกต้องเป็นธรรมทั้งเป็นการส่งเสริมระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าถึงประชาชนในเชิงรุกและเพิ่มทางเลือกในการยุติและระงับข้อพิพาทให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้นการส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐใช้หลักการบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้ใช้หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ฉบับที่ 7 พ.ศ.2550 ซึ่งให้อำเภอมีอำนาจทำการไกล่เกลี่ยหรือจัดให้มีการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททั้งทางแพ่งและทางอาญาทำให้สามารถสกัดกั้นความขึ้นสู้ศาลได้อีกทางหนึ่งด้วย อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว |