รมช.กระทรวงการคลัง สัมมนานายด่านศุลกากรทั่วประเทศ |
|
รมช.กระทรวงการคลัง สัมมนานายด่านศุลกากรทั่วประเทศ เพื่อเป็นผู้นำสมัย ส่งเสริมให้ภาคเอกชนเกิดการพัฒนา
วันที่ 19 ธ.ค.53 ที่ห้องนภาลัย อี โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จ.ชลบุรี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนานายด่านศุลกากร ประจำปีงบประมาณ 2554 และมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานช่วงครึ่งปีแรก โดยมีผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการสำนักงานและหัวหน้าด่านศุลกากรทั่วประเทศทั้งสิ้น 80 คน ให้การต้อนรับ โดยนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.กระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในปี 2015 ทั้งกับแป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการส่งออก ซึ่งเป็นหลักสากลในการดำเนินงานของศุลกากรทั่วโลก และความร่วมมือด้านการขนส่ง เพื่อให้การขนส่งในระบบเครือข่ายมีประสิทธิภาพ มั่นคง และบูรณาการในอาเซียน ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานหนึ่งในการรวมกลุ่มทางศุลกากร ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานราชการในกลุ่มประเทศเพื่อให้การดำเนินงานนี้ประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ ในปี 2554 องค์การศุลกากรโลก หรือ WCO ได้กำหนดให้เป็นปีแห่งความรู้ หรือ เดอะ เยียร์ ออฟ โนเลดจ์ (the year of knowledge) โดยมีหัวข้อสำคัญ คือ โนเลดจ์ อะ คาเทเลสท์ ฟอร์ คัสทอมส์ แอ็กซเลนซ์ (Knowledge a catalyst for customs excellence) ทำให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรต้องตื่นตัวในการรับสภาพและความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น อยู่ตลอดเวลา ศุลกากรจะต้องไม่เพียงแคทันสมัยแต่ต้องเป็นผู้นำสมัย เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนเกิดการพัฒนา และเป็นผู้ชี้ทางของการก้าวไปข้างหน้าของประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืน สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการสำนัก และนายด่านศุลกากรทั่วประเทศ ได้ร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานของด่านศุลกากรในอนาคตให้มีความเป็นมาตรฐานเดียวกัน และสร้างการรับรู้และปรับตัวของศุลกากรต่อการเปลี่ยนแปลงอันเกิดจากปัจจัยภายนอกขององค์กร อีกทั้งเป็นโอกาสในการพบปะแลกเปลี่ยนความคิด และประสบการณ์ในการบริหารงานในบริบทที่แตกต่างกันของผู้บริหารภายในกรมศุลกากร ตลอดจนได้มีโอกาสรับทราบนโยบายจากผู้บริหารระดับสูงเพื่อกำหนดทิศทางในการแก้ปัญหา และพัฒนางานในความรับผิดชอบให้เกิดผลสัมฤทธิ์ สอดคล้องกับบทบาทและนโยบายของกรมศุลกากรและกระทรวงการคลังต่อไปทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน
|