หน่วยกู้ภัยเมืองทหาร รับน้องใหม่ในสุสานฝังศพสุดโหด วัดกาย ใจ ฝึกความอดทน

                   นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี ประธานมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ชลบุรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบบัตรประจำตัวอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ชลบุรี ประจำปี 2551 ณ. มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ โดยมีคณะกรรมการกู้ภัย ผู้จัดการ กู้ภัย และอาสาสมัครกู้ภัยจำนวน 200 นาย เข้ารับการฝึกอบรมดังกล่าว

           โดยในช่วงบ่ายได้มีกิจกรรมรับน้องใหม่สร้างความรัก ความสามัคคี ในหมู่คณะอีกด้วย ซึ่ง นายพิชิต เกลียกกุทัณฑ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจำนวนหนึ่ง ได้พาอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสมัครใหม่ จำนวน 60 คน แบ่งเป็นชาย 47 คน หญิง 13 คน ทั้งหมดยังจัดอยู่ในกลุ่มของวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 25 ปี เดินทางเข้าไปในสุสาน หรือป่าช้าบ้านมาบฟักทอง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมทั้งได้นำอุปกรณ์พรางหน้าของทหารทาหน้าอาสาสมัครใหม่ มีฐานกิจกรรมจำนวนมาก ล้วนแล้วมีแต่ความยากลำบาก ต้องเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว และยังมีการฝึกวัดใจในรูปแบบต่าง ๆ คล้ายกับการฝึกทหาร แต่เป็นที่น่าแปลกใจอย่างมากวัยรุ่นทุกคนสมัครใจ เต็มใจ และสนใจกับการฝึกทดสอบจิตใจเป็นอย่างมาก

             อาสาสมัครกู้ภัยใหม่ที่เข้ารับการฝึกรับน้องใหม่ เปิดเผยว่า สาเหตุที่สมัครเข้ามาเป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยเพราะต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เห็นคนเจ็บบ่อยครั้งแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะไม่ได้รับการฝึก ไม่มีหน้าที่ในการช่วยเหลือ ถ้าผิดพลาดอาจมีความผิดตามกฎหมายได้ เมื่อมีโอกาสจึงได้สมัครเข้ามาช่วยเหลือสังคม ต้องยอมรับว่าประเพณีรับน้องใหม่ของหน่วยกู้ภัยแห่งนี้โหด ใช้ระบบทหารเข้ามาฝึก ให้เกิดระเบียบ วินัย สะดวกต่อการปกครอง การฝึกมีเหตุผลที่ยอมรับได้ทุกอย่างถึงแม้จะเหนื่อย สกปรก เปรอะเปื้อน เพราะต้องการเป็นอาสาสมัครอย่างสมบูรณ์แบบ รุ่นพี่ ๆ ทุกรุ่นหนักกว่านี้นอน และฝึกความอดทนในป่าช้า 2 วัน 1 คืน ส่วนหน่วยกู้ภัยทางทะเลก็จะมีครูฝึกเป็นมนุษย์กบ กองทัพเรือมาฝึกดำน้ำให้ในการค้นหาศพในน้ำ

           นายพิชิต เกลียกกุทัณฑ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ เปิดเผยว่าหน่วยกู้ภัยสัตหีบแห่งนี้ก่อตั้งมานานแล้วกว่า 23 ปีซึ่งคนไทยเชื้อสายจีน ก่อตั้งขึ้นมาด้วยความเสียสละ ซึ่งรุ่นแรกๆเป็นประชาชนชาวสัตหีบและนักเรียน โรงเรียนสิงห์สมุทร จำนวน 30 คน จึงได้มีการนำเอารูปแบบการฝึก อบรมทหารมาใช้ในการฝึกอาสาสมัครกู้ภัย และขยายกว้างไปสู่ประชาชนจนมีอาสาสมัครนับพันคน ส่วนเป็นประเพณีปฏิบัติในการรับน้องใหม่ หรือการฝึกน้องใหม่ต้องเข้าไปฝึกในป่าช้าเพื่อให้เกิดความกล้า ลดความกลัว เพื่อเป็นการฝึกจิตใจเข้มแข็ง เพราะชีวิตกู้ภัยต้องคลุกคลีอยู่กับศพทั้งสิ้น ถ้ากลัวก็จะไม่สามารถทำงานได้ การฝึกอบรมอาสาสมัครจึงต้องฝึกให้จิตใจเข้มแข็ง ไม่กลัว มีระเบียบ วินัย และที่สำคัญต้องพร้อมที่จะเสียสละในการช่วยเหนือผู้ประสบภัยทุกประเภททั้งทางบกและทางทะเล       

 อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว