พระราชทานเพลิงศพหนุ่มสวทช.เหยื่อรถตู้ตกโทรลเวย์ |
|
พระราชทานเพลิงศพหนุ่มสวทช.เหยื่อรถตู้ตกโทรลเวย์ภรรยาและครอบครัววอนคู่กรณีให้ออกมาขอโทษอย่างจริงใจ
เมื่อเวลา 16.00 น. ( 2 ม.ค.54)ที่วัดบางพระราชวรวิหารต.บางพระอ.ศรีราชาจ.ชลบุรี ดร.ทวีศักดิ์ กออนันต์ตกูลผอ.สนง.พัฒนาและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพนายอุกฤษฏ์ รัตนโฉมศรีนักวิจัยไบโอเทคสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติที่เสียชีวิตจากรถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิคชนท้ายรถตู้โดยสารจนตกทางด่วนโทรเวย์เมื่อคืนวันที่27 ธ.ค.2553ที่ผ่านมาและทางญาติได้นำศพมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดโดยตั้งศพสวดอภิธรรมจำนวน5 คืน ซึ่งมีญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงเข้าร่วมงานพระราชทานเพลิงศพในครั้งนี้กว่า500 คนท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวรัตนโฉมศรีและเพื่อนฝูงที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ซึ่งต่างเสียดายในความรู้ความสามารถของผู้เสียชีวิตที่ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและกำลังจะมีอนาคตที่รุ่งโรจน์ ซึ่งผู้บังคับบัญชาในสวทช.ต่างมีความเสียดายที่ต้องขาดบุคลากรที่มีความรู้และเก่งทางด้านวิชาการไปอีกท่านหนึ่ง ซึ่งนางสุภัชส์ศวีร์ รัตนโฉมศรี อายุ 28ปีซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทมี้ดจอห์นสันนิวทิชัน(ประเทศไทยจำกัด)ภรรยาของนายอุกฤษฏ์ รัตนโฉมศรีผู้เสียชีวิตได้เปิดเผยว่าได้แต่งงานกันมา3ปีแล้วและมีบุตรชายด้วยกัน 1 คนคือด.ช.ภีมชยุติม์ รัตนโฉมศรี อายุ 3 ปีซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นคนรักครอบครัวเป็นอย่างมากโดยบุตรชายได้ให้ปู่กับย่าดูแลอยู่ที่บ้านบางพระตนเองกับสามีจะมาเยี่ยมลูกทุกวันหยุดเป็นประจำซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้รู้สึกตกใจที่สูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันกลับมาและยังตกใจในเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่และยังความเศร้าโศกแก่ครอบครัวรัตนโฉมศรีสำหรับครอบครัวของตนเองนั้นตนเองต้องเป็นเสาหลักให้แก่ลูกที่สูญเสียผู้เป็นพ่อไปซึ่งตนเองนั้นคงต้องเลี้ยงลูกชายต่อไปเพียงคนเดียวและตนเองอยากให้คู่กรณีออกมาขอโทษอย่างจริงใจในเมื่อผิดก็ให้ยอมรับผิดไม่ใช่ให้ครอบครัวไปขอโทษแทนซึ่งถ้าออกมาขอโทษอย่างจริงใจตนและครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็พร้อมให้อภัยส่วนในเรื่องของรูปคดีถ้าผลการสอบสวนออกมาถ้ามีความยุติธรรมแก่ผู้เสียชีวิตตนเองก็พร้อมจะยอมรับแต่ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะดำเนินการทวงความยุติธรรมให้ถึงที่สุดส่วนเรื่องคู่กรณีและเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างไรซึ่งคิดว่าเมื่อเรียบร้อยจากงานศพของสามีก็จะติดตามผลความคืบหน้าของคดีว่าไปถึงไหนแล้ว นายอุกฤษฏ์ รัตนโฉมศรี อายุ 31 ปีเป็นนักวิจัยไบโอเทคสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเป็นบุตรชายคนที่2 ของนายอนันต์และนางรุจิตรา รัตนโฉมศรีสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนดาราสมุทรศรีราชาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะเทคโนโลยีชีวภาพมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกเริ่มปฏิบัติงานที่ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค)สังกัดสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)ตั้งแต่เดือนพ.ย.2545ในตำแหน่งผู้ช่วยนักวิจัยห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีเอนไซม์หน่วยวิจัยเทคโนโลยีทรัพยากรชีวภาพและเป็นกำลังสำคัญของห้องปฎิบัติการมาตลอดระยะเวลา8 ปีในการทำงาน ซึ่งการทำงานได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นคนเก่งคนขยันและเป็นคนดีให้ความช่วยเหลือกับเพื่อนร่วมงานทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานตวามสามารถในการทำวิจัยที่โดดเด่นโดยมีผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติจำนวนมากได้รับรางวัลผลงานสิ่งประดิษฐ์จากสภาวิจัยแห่งชาติในปี2551และในปี2553ได้รับรางวัลExcellent Paper Award of the Society of Biotechnology Japanจากสมาคมเทคโนโลยีชีวภาพและยังได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันการพัฒนาแนวความคิดสู่ผลิตภัณฑ์ประจำปี2553 ในเดือนพ.ย.2553ที่ผ่านมาสร้างความสุขและความภูมิใจให้กับทุกคนในห้องปฏิบัติการตลอดมา
|