2 โจรควงปืนจี้พนักงานร้านสะดวก ชิงเสื้อเซฟตี้ที่ใส่เงินสดกว่า 6 แสนบาท ขณะกำลังนำไปฝากธนาคารกลางเมืองพัทยา แล้วซิ่ง จยย.เผ่นหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 ม.ค.54 พ.ต.ท.ภัทศา เดชภาคกุลย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุชิงทรัพย์บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาพัทยา-นาเกลือ ใกล้เคียงปากซอย 18 ถ.พัทยา-นาเกลือ หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผกก. พ.ต.ท.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.กฤศกร ทองอินทร์ รอง ผกก.ปป. พ.ต.ต.วิศรุต สองห้อง สว.สส. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบนางศิริลักษณ์ รัตนา อายุ 30 ปี พนักงาน บ.ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และผู้จัดการร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาที่ 1212 ถนนพัทยา-นาเกลือ กับนายสันทาน คำมงคล อายุ 20 ปี พนักงานร้าน ยืนรอตำรวจอยู่ โดยนางศิริลักษณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้รวบรวมเงินรายได้ของร้านประมาณ 6 แสนบาทที่เก็บรวบรวมไว้ประมาณ 1 เดือน ใส่ในเสื้อกั๊ก สีฟ้า ซึ่งเป็นเสื้อที่มีระบบเซฟตี้ที่ทางบริษัทจัดไว้ให้ จากนั้นได้สวมใส่ไว้กับตัวแล้วสวมเสื้อคลุมทับอีกชั้นหนึ่ง ก่อนที่จะออกจากร้านไปกับนายสันทาน คำมงคล พนักงานชาย เพื่อนำเงินดังกล่าวไปฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาพัทยา-นาเกลือ โดยขณะที่กำลังจะเดินเข้าประตูธนาคารได้มีคนร้ายเป็นชายฉกรจจ์จำนวน 2 คน อายุประมาณ 25-35 ปี วิ่งออกมาประกบก่อนชักอาวุธปืนขนาด .38 ม.ม. ออกมาข่มขู่ จากนั้นได้บังคับให้ถอดเสื้อเซฟตี้เพื่อต้องการเงินสดทั้งหมด ด้วยความตกใจกลัวจึงยินยอมตามคำขู่ของคนร้าย ขณะนั้นได้มีนายสัมฤทธิ์ อ่อนกลาง อายุ 30 ปี เจ้าของร้านอาหารตามสั่งซึ่งตั้งร้านติดกับธนาคาร เห็นเหตุการณ์ได้คว้าเก้าอี้ขว้างใส่คนร้าย แต่กลับถูกคนร้ายยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าจำนวน 2 นัด ทำให้ทุกคนต้องพากันวิ่งไปหลบวิถีกระสุน หลังจากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คนพากันจึงกระโดดขึ้นรถจยย.ยามาฮ่า รุ่นนูโว สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามธนาคาร ก่อนยิงปืนอีก 1 นัด เพื่อเปิดทางก่อนขับรถหลบหนีไปพร้อมเงินจำนวน 6 แสนบาท มุ่งหน้าไปทางตลาดนาเกลือ นางศิริลักษณ์ รัตนา ให้การอีกว่า ปกติการฝากเงินของร้านจะทำการฝากทุกสิ้นเดือนในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นคนในเท่านั้นที่รู้ขั้นตอนและวิธีการทั้งหมดรวมทั้งทั้งเวลา และเรื่องของเสื้อเซฟตี้ จึงคาดว่าพนักงานของร้านคนหนึ่งชื่อนายเอนกพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) ที่ทางร้านได้ไล่ออกจากงานไปเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย จึงให้แจ้งข้อมูลให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป ด้านนายวัชรินทร์ จูงอินทะ อายุ 31 ปี อาชีพขายส้มตำ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุ คนร้ายทั้ง 2 คน ได้ขับรถจยย.มาจอดที่หน้าร้าน พร้อมกับได้สั่งอาหารและเครื่องดื่มมานั่งกินประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้นได้ยินคนร้ายหยิบโทรศัพท์พูดว่า”เฮ้ย ถ้ามันออกมาจากร้านเซเว่น โทรบอกกูด้วย” ซึ่งในขณะนั้นสังเกตเห็นคนร้ายวิ่งข้ามถนนไปซื้อเบียร์กระป๋องที่ร้านเซเว่นฝั่งตรงข้าม จำนวน 2 กระป๋อง จึงสงสัยในพฤติกรรมจึงสั่งให้รถจยย.รับจ้างบริเวณใกล้เคียงเฝ้าดู จากนั้นได้เดินเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับออกมาจึงทราบว่าชายทั้ง 2 คนดังกล่าวกลายเป็นคนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 1 ราย ขณะเดินเข้าไปซื้อเบียร์กระป๋องในร้านจำนวน 4 ครั้ง ซึ่งทางผู้จัดการร้านและพนักงาน ต่างยืนยันชัดเจนว่าเป็น 1 ในผู้ก่อเหตุ และไม่น่าจะเป็นอดีตพนักงานที่เคยทำงานในร้าน เนื่องจากอายุประมาณ 30-35 ปี และทางพนักงานของร้านไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ส่วนแนวทางการสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวเป็นอย่างดี และทราบว่าจะนำเงินไปฝากธนาคารเวลาไหน จึงพากันมานั่งดื่มเบียร์รอเวลา กระทั่งผู้จัดการร้านขนเงินออกมาจึงลงมือใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงเงินสดกว่า 6 แสนบาทหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม คดีนี้อาจจะมีเกลือเป็นหนอน ซึ่งจะได้เรียกพนักงานทุกคนที่ทำงานอยู่ในร้านสะดวกซื้อดังกล่าว มาสอบปากคำหาแนวทางคลี่คลายคดีและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน |