ชาวแหลมฉบังร่วมมือสร้างธนาคารปู แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน

นายสันติ ศิริตันหยง  รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง พร้อมด้วยประชาชนบ้านแหลมฉบัง นำกระชังธนาคารปู  ที่ร่วมแรงร่วมใจทำขึ้น นำออกทะเล เพื่อที่จะดำเนินโครงการธนาคารปูอย่างจริงจัง และบูรณาการ ซึ่งแต่เดิมนั้นหลังจากที่ชาวประมงออกหาปลา แล้วกกลับมาถึงฝั่ง ทางคณะกรรมการชุมชนก็จะนำปูที่มีไข่ปล่อยทะเลไป ตามที่ทางชุมชนได้ตกลงกันไว้ ส่งผลให้มีจำนวนของปูมากขึ้น ทางคณะกรรมการชุมชนจึงคิดว่าเราน่าจะทำธนาคารปูให้เป็นรูปเป็นร่างและต่อเนื่อง ดังนั้นจึงปรึกษาหารือกับคณะผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบังสนับสนุนให้งบประมาณทำกระชังธนาคารปู ขนาด 6 x 4 เมตร แล้วทำกระชังเป็นช่องๆ เพื่อที่จะได้เลี้ยงปูไข่ โดยได้ร่วมมือกับชาวประมงหากใครออกเรือแล้วได้ปูไข่ให้นำมาฝากที่กระชังธนาคารปู โดยไม่จำกัดว่าต้องนำมาฝากกี่ตัว เมื่อปูได้สลัดไข่ออกไปแล้วนั้น ก็จะนำปูคืนให้แก่เจ้าของที่มาฝากไว้ เพื่อนำไปขายดังเดิม

นายสันติ ศิริตันหยง  รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง  กล่าวว่า ปู 1 ตัว มีไข่ประมาณ 3 แสนฟอง  โดยไข่ปูอาจจะกลายเป็นอาหารปลาเล็ก  โตเป็นปูไซร์เล็ก  เป็นปูไซร์ใหญ่ประมาณ 5 ตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งไข่อาจจะไม่สมบูรณ์ทั้งหมด จาก 3 แสนฟอง อาจจะรอดเป็นปูประมาณ 1% คือ 3,000 ตัว และใน 1 สัปดาห์ จะปล่อยปูประมาณ 100 ตัว จะได้ปูถึง 3 แสนตัว ระยะเวลาที่ปูจะโตเต็มที่ ประมาณ 6 เดือน สำหรับธนาคารปูเหมาะที่จะทำในช่วง 4 เดือนนี้(ก.พ.- พ.ค.)  เนื่องจากคลื่นลมทะเลสงบ ง่ายต่อการออกเรือไปดูแล อีกทั้งช่วงลมทะเลสงบจะมีแพงตอนจำนวนมาก ปู หอย จะมีอาหารมาก ส่งผลให้ปู หอย ในช่วงนี้จะมีเนื้อแน่น  และเหตุผลที่ต้องแบ่งกระชังออกเป็นช่องๆ  เพื่อไม่ต้องการรบกวนปูบ่อยนัก หากยกกระชังใส่ปูทุกวัน ปูที่กำลังจะสลัดไข่จะตกใจและส่งผลให้ไข่ปูฟ่อ ซึ่งจะแบ่งเป็นช่องตามวันโดยจะปล่อยไว้ 1 อาทิตย์ แล้วจึงจะมาเก็บปูที่สลัดไข่ออกแล้วคืนให้แก่เจ้าของดังเดิม จากการทำธนาคารปูนี้วัตถุประสงค์ก็คืต้องการส่งเสริมการทำการประมงในเชิงอนุรักษ์ สร้างจิตสำนึกในการทำการประมงอย่างมีจรรยาบรรณ และความรับผิดชอบ อีกทั้งสร้างจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด ยั่งยืน ถาวร ผลที่ได้รับคือเป็นการอนุรักษ์ปูและการเพิ่มผลผลิต อันจะทำให้การประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมงยั่งยืนถาวร และรู้จักใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาดและคุ้มค่าต่อไป

นายสันติ ศิริตันหยง  กล่าวอีกว่า คนที่ได้ประโยชน์จากการทำธฯคารปูนั้นก็คือ ชาวประมง และผู้บริโภค ในปัจจุบันนี้เหตุที่ปูมีราคาแพงก็เนื่องมาจากปูหายาก หากทำธนาคารปูอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ปูมีปริมาณมาก ราคาก็จะถูกลง จากการสังเกตุจะเห็นได้ว่าหาดแหลมฉบังมีสัตว์น้ำมากขึ้น ส่วนสัตว์น้ำที่เคยหายไปหลายปีก็กลับมา เช่น หอยนมสาว ปูใบ้ และมีปูม้าเพิ่มมากขึ้น  และอาจจะทดลองแขวนหอยแมลงภู่ เพื่อเพิ่มที่อยู่อาศัยให้แก่สัตว์น้ำตัวเล็กๆ ในระยะยาวหากต้องการเห็นผลอย่างชัดเจนเราต้องขอความร่วมมือกับชาวประมง ห้ามเข้าใกล้เขตอนุบาลสัตว์ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ช่วยสอดส่องดูแลอีกทางหนึ่งด้วย