กระหน่ำยิงโจ๋สัตหีบกลางดึกเข้ารพ. ถูกอายัดตัวพร้อมเพื่อนหลายข้อหา 

      เหตุการณ์นี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 5 เม.ย.54 ร.ต.อ.ธีทัต ตรุณจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีวัยรุ่นถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดภายในตลาดบ้านบางเสร่ บริเวณหน้าร้านเจ๊ติ๋มของฝาก ม.8 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง รอง ผกก.ปฯ พ.ต.ท.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน สวป. พ.ต.ต.ปารุต สามารถ สว.สส. และชุดสืบสวน

      ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังอยู่ในอาการแตกตื่น กับเหตุการณ์ที่มีกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน ใช้รถยนต์กระบะ นิสสัน นาวาร่า สีบอร์นทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน อาวุธครบมือยิงถล่มใส่สองวัยรุ่นนับสิบนัด ขณะขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 125 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จนล้มกลิ้งได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะมีพลเมืองดีช่วยเหลือนำตัวส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ในที่เกิดเหตุพบเพียงรถจักรยานยนต์ รอยเลือด และปอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 6 ปอก ตกเกลื่อนพื้นถนน และกระสุนยังกระเด็นไปถูกรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาวี สีเขียว ทะเบียน ภธ – 7274 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ โตโยต้า อแวนซ่า สีดำ ทะเบียน กร – 2771 ชลบุรี ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย

      ในเวลาต่อมาได้เดินทางไปตรวจสอบยังห้องฉุกเฉิน พบแพทย์พยาบาลกำลังให้การช่วยเหลือทำบาดแผล นายฉัตรชัย หรือเต๊ะ เจริญวงค์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/9 ม.6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี คนขี่ ถูกยิงเข้าที่บริเวณหัวไหล่ซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน และนาย จิตพงค์ หรือโบ๊ท รักความงาม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะกระสุนแค่ถากหนังศีรษะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 

      จากการสอบถาม นายฉัตรชัย หรือเต๊ะ คนขี่ ให้การว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์โดยมีเพื่อนคือ นายจิตพงค์ หรือโบ๊ท ซ้อนท้ายออกมาจากบ้าน เพื่อจะไปหาซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่เซเว่นอีเลฟเว่นตลาดบ้านบางเสร่ ขณะที่จอดติดไฟแดงบนถนนสุขุมวิท ปากทางเข้าตลาดบ้านบางเสร่ โดยมีรถคันก่อเหตุจอดอยู่คันหน้า ภายในแคปและกระบะท้าย มีวัยรุ่นนั่งมาเต็มคันประมาณ 10 คน หลังสัญญาณไฟเขียวได้ขี่รถตามท้ายมาตลอดทาง เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้พยายามเร่งเครื่องแซง ทันใดนั้น 2 ในกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งมาท้ายกระบะ ได้ชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงเข้าใส่อย่างไม่ยั้งเกือบ 20 นัด กระสุนถูกเข้าที่หัวไหล่ จนเป็นเหตุให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ส่วนเพื่อนถูกยิงเข้าที่ศีรษะจนหมวกกันน๊อคเป็นรูได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลทันควัน

      นาย โอฬาร สีใส อายุ 18 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุได้นั่งอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 30 เมตร ได้เห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ขี่ตามท้ายรถยนต์กระบะคันก่อเหตุ ขณะที่รถจักรยานยนต์ได้เร่งเครื่องขึ้นแซง ทันใดนั้นได้มีวัยรุ่นที่นั่งอยู่ท้ายกระบะ 2 คน ยืนขึ้นและชักอาวุธปืนสั้นชนิดลูกโม่ และแม็กกาซีน กระหน่ำยิงเกือบ 20 นัด เข้าที่ร่างของทั้งสองคนจนรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ จึงได้รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือและนำตัวส่งรักษายังโรงพยา บาลเป็นการด่วน โชคดีที่ทั้งคู่ออกมาจากที่เกิดเหตุทันเวลา เนื่องจากรถคันก่อเหตุได้วกกลับมาอีกรอบเพื่อจะยิงซ้ำ จึงรอดตายจากเหตุการณ์ครั้งนี้มาได้อย่างหวุดหวิด

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่า คือนายจิตพงค์ หรือโบ๊ท ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกยิงไม่เข้า และนายอนุสรณ์ หรือต้น บุญสิงห์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.11 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขณะขับรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กธ – 7062 ระยอง เข้ามาจอดเยี่ยมนายจิตพงค์ ที่โรงพยาบาล โดยทั้งคู่ได้เป็นผู้ต้องหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นในคืนวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 02.45 น.โดยใช้อาวุธปืนยิง จ่าเอก เอกรินทร์ เรืองอร่าม อายุ 25 ปี สังกัดเรือหลวงสายบุรี กองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ และนายธีรเดช ฉมาพักตร์พิมล อายุ 21 ปี หนุ่มขายประกันภัย บริษัทไทยพาณิชย์ นิวยอร์คไลฟ์ ประกันชีวิต จนเสียชีวิต และยังมีผู้บาดเจ็บถูกกระสุนปืนอีก 1 ราย คือนายภากร ขุนทองพันธุ์ หรือตอง อายุ 18 ปี นักศึกษาโรงเรียนอักษรเทคโนโลยีพัทยา ปี 2 สาขาเครื่องยนต์ ขณะที่ทั้ง 3 คน กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักในตลาดสัตหีบ แต่เมื่อผ่านมาถึงบริเวณหน้าวัดเทพประสาท บ้านเตาถ่าน ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก็ได้ถูกอาวุธปืนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต เบื้องต้น ทั้งคู่ได้ให้การปฏิเสธพร้อมให้การในชั้นศาล

      พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ เปิดเผยว่า กระก่อเหตุในครั้งนี้ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ใจกลางชุมชน ทั้งสองฝั่งมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นับเป็นความโชคดีที่ไม่มีผู้ใดถูกลูกหลง ส่วนกลุ่มคนร้ายจากแหล่งข่าวทราบว่าคนร้ายกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มนักโทษเรือนจำที่พึ่งพ้นโทษออกมา และได้พยายามประกาศศักดาให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เกรงกลัว ทั้งนี้ ได้ประมวลข้อมูลจากภาพวงจรปิดที่คาดว่าจะสามารถจับภาพหมายเลขทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุ และใบหน้าคนร้ายกลุ่มนี้ เบื้องต้น ต้องขอปิดข้อมูลนี้เป็นความลับเพื่อไม่ให้ผู้ก่อเหตุไหวตัว คาดจะสามารถตามล่าแก๊งทรชนโหดมาลงโทษตามกฎหมายในเร็ววันอย่างแน่นอน

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว