หน่วยงานในพื้นที่สัตหีบ ร่วมฝึกซ้อมแผนรับผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากในช่วงเทศกาลวันหยุดเทศกาลสงกรานต์    

  โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ศูนย์แพทย์ฉุกเฉินภาคตะวันออก ร่วมกับโรงพยาบาล ส่วนราชการระบบเครือข่ายบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน จำลองสถานการณ์เกิดอุบัติเหตุทางถนนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากลำเลียงมายังห้องฉุกเฉินเตรียมความพร้อมทีมแพทย์ พยาบาล ที่คอยช่วยเหลือ คัดแยก ผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
           เมื่อเวลา 19.30 น.ของวันนี้( 7 เมษายน 2554 ) พลเรือตรี พันเลิศ แกล้วทนงค์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้เชิญ โรงพยาบาลสัตหีบ กิโลเมตรที่ 10 ,โรงพยาบาลวัดญาณสังวราราม ,โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ, กองพันพยาบาล กรมสนับสนุน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน , กองพันพยาบาล กรมสนับสนุน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง , หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ , เพื่อส่งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ เข้าร่วมการฝึกซ้อมแผนรับผู้ป่วยจำนวนมาก ประจำปี 2554 ณ.ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อเพิ่มทักษะในการปฎิบัติงานตามแผนของโรงพยาบาล ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมของระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน เครื่อข่ายที่ 4 สำนักงานบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดชลบุรี เพื่อให้เกิดการประสานความร่วมมือระหว่างทีมสหสาขาวิชาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับผู้ป่วยที่เกิดจากอุบัติเหตุจำนวนมากช่วงเทศกาลวันหยุดเทศกาลสงกรานต์     
                   พลเรือตรี พันเลิศ แกล้วทนงค์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือเปิดเผยว่า การฝึกซ้อมแผนรับผู้ป่วยจำนวนมากในวันนี้ ได้มีการสมมุติสถานการณ์ขึ้นว่า มีอุบัติเหตุรถชนกันทางท้องถนนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก มายังห้องฉุกเฉิน โดยจะมีทีมแพทย์ พยาบาล ที่คอยช่วยเหลือ คัดแยก ผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พร้อมทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อความรวดเร็วในการช่วยชีวิตในช่วงเทศกาลวันหยุดเทศกาลสงกรานต์    ในฐานะที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ภาคตะวันออกในการรองรับผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหมู่จำนวนมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยงาน ด้วยเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดได้อย่างรวดเร็ว การวางแผน และการบริหารจัดการกับกำลังพล ตลอดจนผู้ป่วย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียให้มากที่สุดเมื่อถึงมือแพทย์ สุดท้ายจะได้หาข้อขัดข้องมาดำเนินการแก้ไขในการซ้อมแผนร่วมกัน พร้อมนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงพัฒนา นำประสบการณ์จริงของแต่ละหน่วยงานมาพัฒนาการช่วยเหลือให้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพต่อไป
อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว