3 เหล่าทัพพร้อมรับมือและตอบโต้หากมีผู้ลุกล้ำอธิปไตยของชาติ |
|
ผบ.ทหารสูงสุดลั่น 3 เหล่าทัพพร้อมรับมือและตอบโต้หากมีผู้ลุกล้ำอธิปไตยของชาติ
เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.54) พลเอก ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วย พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะนายทหารจากกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ของ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ไปยัง เรือหลวงจักรีนฤเบศรซึ่งอยู่ในระหว่างการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2554 บริเวณอ่าวไทยตอนบน เพื่อสังเกตการณ์การฝึกภาคสนาม/ทะเล โดยมีการฝึกที่สำคัญ อาทิ การฝึกยิงอาวุธต่อสู้อากาศยาน และปืนใหญ่รักษาฝั่งด้วยกระสุนจริง บริเวณเขาหน้ายักษ์ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และการปฏิบัติการร่วมระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพอากาศ โดยกำลังทางเรือ และ เครื่องบินขับไล่สกัดกั้น แบบ F – 16 และในวันนี้ (22 เม.ย. 54) ได้มี การฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ เอ็กโซเซต์ จากเรือยนต์เร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถี ชุดเรือหลวงราชฤทธิ์ หลังจากนั้นพลเอก ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แถวให้โอวาทกำลังพลทางเรือโดยมีการสวนสนามทางเรือและอากาศยาน พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า การฝึกกองทัพเรือ เป็นการฝึกที่กองทัพเรือได้จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยได้บูรณาการการฝึกของหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือเข้าไว้ด้วยกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การประสานงานการปฏิบัติด้านการฝึกให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยการนำสาขาการปฏิบัติการต่าง ๆ ในส่วนของกำลังรบ และการปฏิบัติ/การสนับสนุนของกรมในส่วนบัญชาการ รวมทั้งส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษา ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน มาทำการฝึกภายใต้สถานการณ์ฝึกห้วงเวลาเดียวกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยเน้นไปที่การทดสอบแผนเผชิญเหตุที่กองทัพเรือได้อนุมัติไว้แล้ว ทดสอบขีดความสามารถของหน่วยต่าง ๆ ที่จัดกำลังไว้รองรับสถานการณ์อันจะเกิดได้ในปัจจุบัน หรือการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุได้ รวมไปถึงการทดสอบระบบการควบคุมระบบการบังคับบัญชาของกองทัพเรือ การสั่งการ อำนวยการด้านการส่งกำลังบำรุงตามสถานการณ์ในการฝึก โดยใช้ข้อมูลและทรัพยากรที่มีอยู่จริงของหน่วย ทั้งนี้ ได้มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมการฝึกทุกคนได้ “ฝึกให้เหมือนจริงและปฏิบัติให้เหมือนฝึก” เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย ทั้งการควบคุมบังคับบัญชา ระบบสื่อสาร การใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างความมั่นใจ และมีความพร้อมในการเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ พลเอก ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวขณะการเยี่ยมชมการการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2554 บนดานฟ้าจอดเฮลิคอปเตอร์ เรือหลวงจักรีนฤเบศร ว่าจากกรณีเกิดยิงปะทะชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก สุรินทร์ หลายจุด ใกล้ปราสาทตาเมือน ปราสาทตาควาย ปืนใหญ่ตกลงหมู่บ้านไทยจึงจำเป็นต้องอพยพชาวบ้าน ซึ่งได้รับรายงานด่วนแล้วเมื่อเช้านี้จากกองบัญชาการกองทัพไทย ผ่านทางวีดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทหารได้มีการอพยพชาวบ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก ที่ได้รับผลกระทบไปยังบ้านตาลวก ต.บักได ส่วนกำลังทหารฝ่ายไทยได้รับรายงานล่อสุดเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 16 ราย ซึ่งขณะนี้ทั้งสองฝ่ายได้มีการยิงโต้ตอบกันเป็นระยะด้วยปืนเล็ก พร้อมสั่งการให้ทุกเหล่าทัพเตรียมพร้อมแผนป้องกันประเทศขั้นที่ 1ซึ่งมีทั้งหมด 8 กองกำลัง ตามแนวชายแดน กองทัพบก 7 กองกำลัง กองทัพเรือ 1 กองกำลังแต่ละกองกำลังมีแผนในการดำเนินกลยุทธการป้องกันประเทศถ้ากองกำลังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทางกองทัพภาคจะเข้าไปแก้ไขปัญหา ซึ่งตอนนี้สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นที่ 1 กำลังทหารของทั้งสองประเทศอยู่ในระหว่างปะทะกัน กองทัพไทยต้องรักษาอธิปไตย และแสดงจุดยืนที่มีอยู่อย่างเดียว คือ ปกป้องรักษาดินแดนอธิปไตยของไทยไม่ให้ให้ใครมารุกรานประเทศ และรักษาผลประโยชน์ของชาติ และในเวลานี้ไม่จำเป็นต้องเจรจากับใครหากชาติไทยถูกลุกล้ำ หรือถูกภัยคุกคามประเทศ ก็พร้อมที่จะใช้กำลังตอบโต้จนถึงที่สุด ที่ผ่านมาชาติไทยไม่เคยรุกล้ำอธิปไตยของชาติใดก่อน และเป็นมิตรให้เกียรติเพื่อนบ้านฉันพี่น้องเสมอมา อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว |