แก๊งผู้รับเหมาโหดลวงฆ่าหนุ่มปากน้ำโพดับเมียชาวลาวสาหัส
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 พ.ค.54 พ.ต.ท.สมัย สมจิตต์ พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดภายในซอยศาลเจ้าแป๊ะกง ริมถนนสาย 331 โคราช-สัตหีบ หมู่ 12 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก. พ.ต.ท.ภาคสุวัฒน์ ชมถนอม สว.สส. นำกำลังชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.วัดญาณสังวราราม และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ พัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนสาย 331 พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.แวว อายุ 43 ปี สัญชาติลาว นั่งอยู่ริมถนนในสภาพแขนทั้งสองข้างหัก หน้าผากและศีรษะถูกของแข็งทุบจนเป็นแผลฉกรรจ์ ตามร่างกายได้รับความบอบช้ำหลายแห่ง อาการค่อนข้างสาหัสแต่ยังพอมีสติ จนท.กู้ภัยฯ จึงรีบนำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.สัตหีบ เพื่อให้แพทย์ช่วยรักษา ห่างจากถนนเข้าไปในซอยดินลูกรังประมาณ 100 เมตร พบศพชายไทย 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือนายประวิทย์ ชัยชาญ อายุ 43 ปี ชาวลาดยาว จ.นครสวรรค์ อาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง สภาพศพนอนตะแคงข้างลักษณะคุดคู้อยู่บริเวณพงหญ้าติดสวนยางพารา สวมเสื้อคอปกลายขาวดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ที่ลำคอและแก้มซ้ายถูกของมีคมเฉือนจนเป็นแผลเหวอะหวะ ใบหน้าบวมปูด ศีรษะแตก ตามร่างกายมีบาดแผลหลายแห่ง เลือดไหลนองพื้นเป็นที่น่าสยดสยอง ส่วนในบริเวณไร่มันสำปะหลังห่างจากจุดพบศพไปประมาณ 50 เมตร จนท.ตร.พบมีร่องรอยการต่อสู้จนต้นมันสำปะหลังหักล้มระเนระนาดและมีกองเลือดอยู่เป็นจุดๆ นอกจากนี้ยังพบหลักฐานสำคัญประกอบด้วย กิ๊ฟหนีบผมพลาสติก สภาพแตกหักตกอยู่กระจัดกระจาย และโทรศัพท์มือถือซึ่งคาดว่าจะเป็นของผู้ตายตกอยู่ 1 เครื่อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาสอบปากคำ น.ส.แวว ซึ่งแพทย์ได้เยียวยาจนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ได้ให้การว่า ตนกับนายประวิทย์ เป็นสามี-ภรรยากัน ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาประเทศไทย ตนได้ขายรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ก ที่ สปป.ลาว ได้เงินมากว่า 4 แสนบาท และอยากจะซื้อรถมือสองคันใหม่ ต่อมาได้รับการติดต่อจากนายไกรวิทย์ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) อาชีพผู้รับเหมา ซึ่งเป็นเพื่อนกับสามีของตน ว่ามีรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ จะขายให้ในราคา 3 แสนบาท และนัดพบกันช่วงเย็นของวันเดียวกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา น.ส.แวว ยังให้การอีกว่า เมื่อพบปะเจรจานัดหมายวันส่งมอบรถและเงินกันได้แล้ว นายไกรวิทย์ ได้ออกอุบายว่าจะพาไปท่องราตรีที่เมืองพัทยา ตนกับนายประวิทย์ สามี จึงขึ้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ โดยมีชายฉกรรจ์ จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นลูกน้องของ นายไกรวิทย์ เดินทางไปด้วย แต่ต่อมากลับพาขับรถออกนอกเมืองจนมาถึงบริเวณทางเข้าซอยศาลเจ้าแป๊ะกง ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว นายไกรวิทย์ พร้อมสมุน จึงออกลายโจร กระชากตนกับสามีออกจากรถแล้วใช้ไม้กระหน่ำตี ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะใช้อาวุธมีดปาดคอสามีจนฟุบจมกองเลือด พร้อมกับชิงเงินสดจำนวน 3 แสนบาท ตนจึงวิ่งหนีเข้าไปในไร่มันสำปะหลัง แต่ก็ถูกกลุ่มคนร้ายตามไปจนทัน และใช้ท่อนไม้กระหน่ำตีที่ศีรษะจนตนสลบไป เมื่อฟื้นขึ้นมาจึงตะเกียกตะกายออกไปขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ใช้ยวดยานสัญจรไปมาบนถนนสาย 331 จนมีหน่วย กู้ภัยฯ มาให้ความช่วยเหลือดังกล่าว ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจจึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และส่งชุดสืบสวนออกหาข่าว คาดว่าน่าจะจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้ อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว
|