เปิดงานประจำปีวัดหลวงพ่ออี๋ 7 วัน 7 คืน |
|
เปิดงานประจำปีวัดหลวงพ่ออี๋ 7 วัน 7 คืน
พระสงฆ์ และศิษย์ยานุศิษย์ สืบทอดเจตนารมณ์หลวงพ่ออี๋ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคตะวันออก เจ้าตำหรับปลัดขิกยิงเครื่องบินสงครามโลก วิ่งแข่งกับเรือ แคล้วคลาด ปลอดภัย สุนัขกัดไม่เข้า จัดงานนมัสการหลวงพ่ออี๋ประจำปี 7 วัน 7 คืน เจ้าตำหรับปลัดขิกยิงเครื่องบินสงครามโลก วิ่งแข่งกับเรือ แคล้วคลาด ปลอดภัย สุนัขกัดไม่เข้า เมื่อคืนวันที่ 1 พ.ค.54 ที่ผ่านมา พลเรือตรี เริงฤทธิ์ บุญส่งประเสริฐ รองผู้บัญ ชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ได้เป็นประธาน เปิดงานนมัสการหลวงพ่ออี๋ หรือพระครูวรเวทมุนี วัดสัตหีบ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคตะวันออก โดยมีพระสงฆ์ทรงสมศักดิ์ จำนวน 10 รูป มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ณ วิหารหลวงพ่ออี๋ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองสัตหีบ นำโดยนาย ณรงค์ บุญบรรเจิดศรี ผู้แทนหน่วยงานของกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชมรม สมาคมต่าง ๆ เข้าร่วมพิธีในวันนี้ด้วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งงานนมัสการหลวงพ่ออี๋ ประจำปี 2554 นี้จัดให้มีขึ้นเป็นระยะเวลา 7 วัน 7 คืน ระหว่างวันที่ 1-7 พฤษภาคม 2554 มีมหรสพให้ชมฟรี พร้อมสินค้าหลากหลายชนิดจากทั่วภูมิภาคของประเทศ มีให้เลือกซื้ออย่างมากมาย ซึ่งเกิดขึ้นจากพระครูวิบูลย์ธรรมบาล เจ้าอาวาสวัดสัตหีบ คณะศิษยานุศิษย์ที่มีความเคารพนับถือในหลวงพ่ออี๋เป็นอย่างยิ่ง จึงได้ร่วมกันจัดงานบำเพ็ญกุศลต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านาน สามารถผดุงรักษาไว้ซึ่งความสามัคคีของหมู่คณะและทำให้เกิดผลรายได้นำไปบูรณะเสนาสนะวัด จัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อการศึกษาแก่เยาวชน และบริจาคให้เป็นสาธารณกุศลและสาธารณะประโยชน์ต่อส่วนรวมมาอย่างต่อเนื่อง วัดสัตหีบนอกจากจะเป็นสถานที่ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลต่างๆ แล้ว ยังเป็นสถานที่ปลูกฝังศีลธรรมแก่ข้าราชการและประชาชนโดยทั่วไปแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมใจของชาวอำเภอสัตหีบอีกด้วย เพราะมีหลวงพ่ออี๋เป็นที่เคารพนับถือ และเป็นวัดที่มีเสนาสนะที่เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม และจากความรัก ความสามัคคี ความมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวอำเภอสัตหีบและผู้ร่วมใสศรัทธาหลวงพ่ออี๋ จึงทำให้เกิดงาประจำปีหลวงพ่ออี๋มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับประวัติโดยย่อของ หลวงพ่ออี๋ หรือพระครูวรเวทมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดสัตหีบ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคตะวันออก มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของการปฎิบัติสมถะและวิปัสสนากัมมัฎฐาน ร่นระยะทางได้ จนเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อำเภอสัตหีบ เป็นเป้าหมายสำคัญของการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม และมีที่ตั้งฐานทัพเรือ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก แต่หลวงพ่ออี๋ ได้ออกมายืนบริกรรมคาถากลางลานวัด ปรากฏเป็นที่น่าแปลกใจอย่างมาก เมื่อทุกคนที่หนีมาหลบภัยในวัดสัตหีบ เห็นลูกระเบิดที่เครื่องบินทิ้งลงมาได้ไปตกในทะเลหมด และมีคนเห็นว่า ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ ได้วิ่งไล่เครื่องบิน และไล่ลูกระเบิด นอกจากนี้แล้ว ยังมีคนเห็นว่าหลวงพ่ออี๋ไปบิณฑบาตรที่อำเภอเมือง ชลบุรี ขณะที่นั่งรถประจำทางกลับสัตหีบ ปรากฏว่าเมื่อกลับมาถึงสัตหีบ กลับเห็นหลวงพ่ออี๋ กลับมาจากบิณฑบาตเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ท่านไม่ได้ขึ้นรถโดยสารประจำทางคันเดียวกัน ต่อมาท่านได้เจ็บป่วยเป็นฝีที่ลำคอ ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2489 แต่ท่านไม่ได้สน ใจในการรักษา เพราะท่านสามารถระลึกชาติได้ว่า เมื่อชาติที่แล้วท่านได้ยิงกวางถูกที่ลำคอตาย ณ หนองไก่เตี้ยสัตหีบ กรรมจึงได้ตามมาสนอง ต้องการไม่ให้ผลกรรมติดตามไปในชาติอื่น ๆ ให้จบสิ้นกันในชาตินี้ จนวันที่ 20 กันยายน 2489 ตรงกับแรม ค่ำ เดือน 10 เวลา 20.35 น. เป็นคืนแห่งการมรณภาพอย่างสมบูรณ์ของหลวงพ่ออี๋ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุ ได้ 81 ปี พระสงฆ์ และศิษย์ยานุศิษย์ จึงได้จัดงานนมัสการหลวงพ่ออี๋ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มาปิดทอง กราบไหว้เพื่อขอพรและทำบุญให้หลวงพ่ออี๋เปนประจำทุกปี จึงเป็นที่มาของ “งานประจำปีวัดหลวงพ่ออี๋” มาจนถึงปัจจุบัน อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว
|