โครงการ “อาชาบำบัด ชมรมภริยานาวิกโยธิน”
แม้ว่าในครั้งแรกๆ เด็กหลายคนจะกลัวและปฏิเสธการขี่ม้า แต่ผู้ปกครองไม่ย่อท้อยังคงพามาอย่างสม่ำเสมอจนเด็กเกิดความคุ้นเคยยอมขึ้นขี่ม้าในที่สุด จึงเป็นที่มาของ โครงการ “อาชาบำบัด ชมรมภริยานาวิกโยธิน” คุณ ดวงพร พุ่มหิรัญ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด โครง การ “อาชาบำบัด ชมรมภริยานาวิกโยธิน” ณ กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชา การนาวิกโยธิน กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี คณะกรรมการบริหารสมาคมภริยาทหาร เรือ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค พลเรือโท พงศ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พร้อมด้วย นาง ภัณฑ์ธิมา ภูรีโรจน์ ประธานชมรมภริยานาวิกโยธิน ตลอดจนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือร่วมให้การต้อนรับ นาวาโท เริงราช อุทธิเสน ผู้บังคับกองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน ผู้รับผิดชอบโครงกา รอาชาบำบัด ชมรมภริยานาวิกโยธิน กล่าวรายงานถึงความเป็นมาว่า โครงการอาชาบำบัด ได้เริ่มดำเนิน การมาตั้งแต่กลางปี 2553 โดยการใช้ม้าบำบัด หรือเรียกว่าอาชาบำบัด ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ได้กำหนดขึ้นภายใต้ การกำหนดยุทธศาสตร์การทำงาน เพื่อสังคมและการปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือน ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ โดยม้าจะเป็นผู้บำยัดร่วมกับบุคลากรของกองพันลาดตระเวนและผู้ปกครอง อันเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับเด็กพิเศษและเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกกล้าม เนื้อโดยเฉพาะเด็กออทิสติก ดังนั้นวัตถุประสงค์ของโครงการ จึงเพื่อบำบัดเยาวชนที่มีความผิดปกติทางร่างกาย อารมณ์ และสมาธิสั้นหรือเด็กพิเศษ ให้มีพัฒนาการต่างๆ ที่ดีขึ้น โดยเด็กที่ได้รับการบำบัดจะมีการปรับสภาพร่าง กายที่ผิดปกติให้เข้าสู่ความสมดุล เสริมสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นในตนเองมีการกล่อมเกลาจิตใจเด็กให้สุขุมเยือกเย็น ลดความกร้าวร้าว มีพัฒนาการที่ดีขึ้น มีการเจริญเติบโตทางวุฒิภาวะ สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัว อีกทั้งโครงการนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์การปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือนของ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ในการช่วยเหลือสังคมอย่างจริงจังและจริงใจอีกด้วย จากนั้น คุณ ดวงพร พุ่มหิรัญ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ได้กดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายเปิด โครงการ “อาชาบำบัด ชมรมภริยานาวิกโยธิน” อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งชมการสาธิตการบำบัดรักษาท่ามกลางสายตาของสื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วยเป็นจำนวนมาก โครงการ “อาชาบำบัด ชมรมภริยานาวิกโยธิน” ณ กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธินแห่งนี้ ปัจจุบันมีผู้ปกครองพาเด็กๆ มาฝึกขี่ม้าแทบทุกวัน วันละประมาณ 18 คน อายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไปจนถึง 10 ขวบ ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่รักษาอยู่ใน โครงการเชมเบอร์ของ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ โดยจะใช้เวลาประมาณวันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง โดยให้เด็กคิดว่า การได้มาหาและเล่นกับเพื่อนซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและรอยยิ้ม ปัจจุบันกองพันลาดตระเวนมีม้าอยู่ 3 ตัว คือเจ้า การ์ตูน คาราบาว และปาน เป็นม้าลูกผสมตัวไม่ใหญ่มาก จึงเหมาะสำหรับเด็กๆ โดยทั้งม้า และทหารที่เข้ามาร่วมเป็นครูฝึกมีรวม 10 นาย ที่ผ่านการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญจาก กรมการสัตว์ กองทัพบก จ.นครปฐม ที่ริเริ่มโครงการอาชาบำบัดนี้ขึ้นมาก่อน ส่วนขั้นตอนอาชาบำบัดนั้น จะเริ่มตั้งแต่การแนะนำอันตรายที่เกิดจากม้า การสร้างความคุ้น เคยกับม้า เด็กบางคนแค่สัมผัสโดนขนม้าก็ตกใจกล้วแล้ว จึงต้องผ่านขั้นตอนนี้ไปให้ได้ก่อนจะถึงขั้น การฝึกให้คุ้นเคยในการจับจูงม้าและบังคับม้า ก่อนที่จะได้ขึ้นนั่งบนหลังม้า ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่เด็กพิเศษจะต้องเอาชนะความตื่นเต้นให้ได้ เมื่อนั่งบนหลังม้าได้พัฒนาการอื่นๆ ก็จะตามมา การบำบัดด้วยม้า ไม่ได้ทำให้หายจากการเป็นออทิสติก แต่เป็นการช่วยปรับสภาพร่างกายที่ผิดปกติให้สมดุล ลดความกร้าวร้าว และมีความเชื่อมั่นในตนเอง มีพัฒนาการทั้งทางร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้น เพื่อให้เด็กใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ดีขึ้น แม้ว่าในครั้งแรกๆ เด็กหลายคนจะกลัวและปฏิเสธการขี่ม้า แต่ผู้ปกครองไม่ย่อท้อยังคงพามาอย่างสม่ำเสมอจนเด็กเกิดความคุ้นเคย ยอมขึ้นขี่ม้าในที่สุดและเมื่อคราวที่ขึ้นขี่บนหลังม้าได้แล้วนี่แหละ ความสนุก ความสุขใจ ที่ได้รับก็มักกลายเป็นหนึ่งใน กลยุทธ์สำคัญในการต่อรองกับเด็กให้เด็กเชื่อฟังคำสั่งได้เป็นอย่างดี โครงการอาชาบำบัดเพื่อเด็กออทิสติกนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความสุขให้แก่ครอบครัวที่มีบุตรหลานเป็นเด็กออทิสติกเท่านั้น แต่บรรดาทหารนาวิกโยธินที่เป็นครูฝึกในโครงการนี้ยังเกิดความภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือสังคมไม่แพ้การทำหน้าที่ออกไปรบอีกด้วย อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว
|