ราชนาวีไทย จัดงาน “ราตรีสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม” ข้าราชการ นักธุรกิจไทย และผู้แทนทั่วโลกในเวียดนาม บนดาดฟ้าบินเรือหลวงนราธิวาส สานสัมพันธ์ครบรอบ 35 ปี

                สำหรับความคืบหน้าในเรื่องที่กองทัพเรือ  จากกรณีที่ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือได้อนุมัติให้กำลังพลกว่า 100 นาย โดยการนำของ พล.ร.ต.ประดิษฐ์ ศิริคุปต์ ผู้บังคับหน่วยเรือ และรองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และเรือหลวงนราธิวาส เดินทางมาเยือนเมืองท่านครไฮฟอง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี และกระชับสัมพันธ์ ระหว่างหน่วยงานทหาร ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคธุรกิจไทย-เวียดนาม และปีนี้เป็นที่ที่ครบรอบ 35 ปี ที่ไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม หน่วยเรือเดินทางจึงได้ถือโอกาสนี้จัดงาน “ราตรีสัมพันธ์ไทย- เวียดนาม” บนดาดฟ้าเรือหลวงนราธิวาส ณ ท่าเทียบเรือนครไฮฟอง มีหน่วยงานทหาร ภาครัฐ เอกชน ผู้แทนทหารต่างประเทศทั่วโลกมาร่วมงานจำนวนมาก

                พล.ร.ต.ประดิษฐ์ ศิริคุปต์ กล่าวว่า สำหรับการจัดงานราตรีสัมพันธ์ในค่ำคืนนี้ ได้รับเกียรติจาก  นายอนุสน ชิวรรโน เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอย นายฝ่าน หิว ทือ ผู้อำนวยการ กรมการต่างประเทศ นครไฮฟอง พลตรี Trinh sy Huynh (พล.ต.จิ่ง ซี้ หวุ่น) รองผู้บัญชาการ ภาคทหารบกที่ 3 นครไฮฟอง นาวาเอก  เหวียน เถ เอิน  รองเสนาธิการทหารเรือ นาย Hoang Van Ke ( หว่าง วัน เก๋)รองประธานคณะกรรมการประชาชน ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำเวียดนาม ภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชน นักธุรกิจไทย ได้ให้เกียรติมาร่วมงาน สานสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ครบรอบ 35 ปี บนดาดฟ้าบินเรือหลวงนราธิวาส ณ ท่าเทียบเรือนครไฮฟอง จำนวนมาก ซึ่งทางหมู่เรือได้จัดอาหารไทย ขนมไทย การแสดงศิลปะป้องกันตัวมวยไทย และกองยาวประยุกต์แสดงให้ชมกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้จัดการแสดงสินค้าโอทอปของศูนย์ศิลปชีพบางไทย สินค้าจากจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อีกด้วย

                และได้กล่าวขอบคุณในนามของกองทัพเรือ ที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้กรุณาให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในทุก ๆ ด้าน ให้แก่หน่วยเรือของทหารเรือไทยอย่างอบอุ่น และเป็นกันเองฉันพี่น้องอย่างแท้จริง ภาพที่ประจักษ์ต่อสายตา ไมตรีจิต ล้วนแล้วเกิดความประทับใจในสัมพันธ์ และวัฒนธรรมอันดีต่อกัน การเดินทางมาเยือนนครไฮฟอง มีความสำคัญยิ่งเพราะกองทัพเรือได้เปลี่ยนการเยือนเมืองท่าจากนครโฮจิมินส์ มาเป็นนครไฮฟอง จึงถือเป็นครั้งแรกของทหารเรือไทย และอีกประการหนึ่งก็คือ ปีนี้เป็นปีครบรอบ 35 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-เวียมนาม ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมคารวะเพื่อเสนอแนะ และความคิดเห็นต่อกัน จะเป็นการเพิ่มพลังแห่งความสัมพันธ์ในระดับกองทัพ และในระดับประเทศมากขึ้นเป็นทวีคูณ ส่งผลไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาประเทศทั้ง 2 และในอาเซียนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน (ONE COMMUNITY) และหวังอย่างยิ่งว่า ในอนาคตกองทัพเรือไทย คงได้มีโอกาสดูแล ต้อนรับกองทัพเรือเวียดนามที่เดินทางไปเยือนเมืองท่าสัตหีบ ชลบุรี ประเทศไทย

                                    อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว