เพลิงไหม้ตู้คอนเทรนเน่อร์ใส่สารเคมีบนเรือสินค้าขนาดใหญ่ที่จอดเทียบท่าที่ท่าเรือB3ภายในท่าเรือแหลมฉบังเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดับเพลิงได้สนิท แต่ควบคุมอยู่ในวงจำกัด

เมื่อเวลา 19.00น.( 25 พ.ค.54) พ.ต.อ.ศักดิ์รพี   เพียวพนิช ผกก.สภ.แหลมฉบัง ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทรนเน่อร์ใส่สารเคมีบนเรือสินค้าขนาดใหญ่ที่จอดเทียบท่าที่บริเวณท่าเทียบเรือ B3 ในท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยเพลิงได้ลุกไหม้ลุกลามไปยังตู้ใส่สารเคมีตู้อื่นๆรวมกว่า 10 ตู้ ที่บรรทุกอยู่บนเรือชื่อ MOL AQUA สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรือสินค้าขนาดใหญ่ บรรทุกตู้คอนเทรนเน่อร์ใส่สารเคมีอยู่กว่า 200 ตู้ ซึ่งทางเทศบาลนครแหลมฉบังได้นำรถดับเพลิงมาฉีดน้ำใส่เพลิงที่กำลังลุกไหม้โหมและร้องขอรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองศรีราชา ท่าเรือแหลมฉบัง เทศบาลตำบลเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เทศบาลตำบลบางละมุง และ เมืองพัทยากว่า 10 คัน มาร่วมดับเพลิง ซึ่งได้เกิดกลุ่มควันจากเพลิงที่ลุกไหม้พวยพุ่งฟุ้งกระจายไปทั่ว ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งนายวิชัย สัมพันธรัตน์ นายอำเภอศรีราชา นางจินดา  ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง นายภูษิต แจ่มศรี ปลัดเทศบาลนครแหลมฉบัง ได้ลงมาอำนวยการดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ลุกลามบนเรือสินค้าลำดังกล่าวซึ่งไม่มีท่าทีว่าเพลิงที่กำลังลุกไหม้ตู้ใส่สารเคมีจะสงบลงแม้ว่ารถดับเพลิงจำนวนหลายคันจะระดมฉีดน้ำเข้าใส่ก็ตาม ซึ่งเรือบรรทุกสินค้าที่จอดอยู่ใกล้เคียงก็ต่างนำเรือออกห่างจากเรือบรรทุกตู้คอนเทรนเน่อร์ที่กำลังลุกไหม้อยู่เนื่องจากกลัวได้รับอันตรายเนื่องจากเพลิงไม่ยอมสงบและยังมีเสียงระเบิดขึ้นเป็นระยะ รวมทั้งกลิ่นสารเคมีนั้นเมื่อสูดเข้าไปก็จะคอแห้งผากและมีอาการวิงเวียนศีรษะ

เบื้องต้นทราบว่าเรือสินค้าลำดังกล่าวได้เข้าเทียบท่าเรือ B4 (บริษัท เอเวอร์กรีน จำกัด) เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น   และได้เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นทำให้ไฟลุกไหม้ตู้คอนเทรนเน่อร์ใส่สินค้าและเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงติดต่อกัน 3 ครั้ง บริเวณกลางลำเรือ โดยเรือได้เทียบท่าเข้าไปในพื้นที่ของท่าเรือ B3  ประมาณ 36 เมตร ระหว่างเกิดทาง รปภ.ทั้ง 2 บริษัท สั่งเข้มงวดบุคคลภายนอกห้ามเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุเด็ดขาดเนื่องจากกลัวว่าจะได้รับอันตราย ยกเว้นหน่วยงานดับเพลิงและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ของท่าเรือและหน่วยกู้ภัยได้พยายามช่วยเหลือลูกเรือที่อยู่ในเรือ 19 คน ออกมาได้อย่างปลอดภัย ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ท่าเรือแหลมฉบัง ยืนยันว่าเรือลำดังกล่าวมีตู้สินค้าอันตราย 4 ตู้ แต่อยู่ในช่วงหัวเรือยังไม่ถูกเพลิงลุกไหม้ ขณะรายงานข่าวเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดับเพลิงได้สนิท แต่ควบคุมอยู่ในวงจำกัด โดยใช้การฉีดน้ำเลี้ยงไว้. ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้สารเคมีที่บรรจุอยู่ในตู้คอนเทรนเน่อร์ ต้องรอให้เพลิงสงบลงก่อนจึงจะตรวจสอบได้