เรือบรรทุกน้ำมันพุ่งชนเรือลากจูงโป๊ะจอดทอดสมอลอยลำกลางทะเลอับปางลูกเรือนอนพักในเรือหนีไม่ทันจมน้ำดับพร้อมเรือ

เมื่อเวลา09.00น.(27พ.ค.54) ร.ต.ท.รุ่งโรจน์ ช้างเสวก ร้อยเวรสภ.แหลมฉบัง รับแจ้งจากนายรัตน์ ดีพิมาย อายุ62ปี ลูกเรือลากจูงเรือ โป๊ะว่าเรือ "วรนาวินลากจูง" ที่มีความยาวกว่า22 เมตร ได้ลากเรือโป๊ะจำนวน 2ลำ มาจอดทอดสมอลอยลำอยู่ห่างจากท่าเรือฮาร์เบอร์ออกไปประมาณ 1 ไมล์ทะเลเพื่อรอเข้าเทียบที่ท่าเรือฮาร์เบอร์เพื่อรับน้ำตาลทรายแล้วบรรทุกไปส่งเรือใหญ่แต่ได้ถูกเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ชนจนทำให้เรืออับปางจมหายไปพร้อมกับลูกเรือที่นอนพักอยู่ภายในอีก1 คน หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำศรีราชาเพื่อให้นำเรือมาสนับสนุนและชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาและหลังจากชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยได้รับการประสานจึงรีบนำอุปกรณ์ดำน้ำพร้อมทีมงานไปที่ท่าเทียบเรืออ่าวอุดมเพื่อขึ้นเรือตำรวจน้ำ537 ที่ได้จอดรอรับไปส่งยังจุดเกิดเหตุและเมื่อไปถึงพบว่าจุดเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องและฟ้ามืดคลึ้มคลื่นลมแรงทำให้ชุดประดาน้ำสว่างประทีปต้องทำงานหนักขึ้นซึ่งหน่วยกู้ภัยได้ใช้เวลาในการดำลงไปหาร่างผู้เสียชีวิตนานกว่า 2ชั่วโมงจึงจะพบศพนายสมบูรณ์ เรียนพินิจ อายุ58ปี ที่อยู่ 73 ม.7 ต.ลาดชิดอ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่จมติดอยู่ภายในห้องพักของเรือชั้นสองก่อนจะนำร่างขึ้นเรือตำรวจน้ำแล้วนำส่งโรงพยาบาลอ่าวอุดมให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพสอบสวนนายรัตน์ ลูกเรือลำเดียวกับผู้ตายที่รอดตาย ให้การว่าเรือลากจูง "วรนาวินลากจูง"ได้ลากเรือโป๊ะจำนวน 2ลำมาจอดทอดสมอลอยลำอยู่หน้าท่าเพื่อรอเข้าไปขนน้ำตาลเพื่อนำไปส่งต่อที่เรือใหญ่เมื่อเวลา22.00น.ของเมื่อวาน แต่เมื่อเวลาประมาณ04.00น.ระหว่างที่จอดทอดสมอลอยลำอยู่นั้นได้มีเรือ บีโอไอ สตาร์ซิตี้ที่บรรทุกน้ำมันวิ่งมาพุ่งชนอย่างแรงจนทำให้เรือลากที่ตนอยู่แตกและมีน้ำเข้าอย่างเร็วตนจึงได้เรียกผู้ตายแล้วกระโดดลงทะเลแล้วรีบขึ้นไปบนเรือโป๊ะจึงทำให้รอดตายอย่างปาฏิหารย์ส่วนนายสมบูรณ์ที่นอนพักอยู่ที่ชั้นสองของเรือได้หนีไม่ทันทำให้จมไปพร้อมกับเรือดังกล่าวด้านเจ้าหน้าที่สอบสวนจะได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำการกู้ซากเรือลากจูงที่ถูกชนแล้วจมลงไปขึ้นมาเพื่อตรวจสอบพร้อมกับสอบสวนคนขับเรือบรรทุกน้ำมันอีกครั้งก่อนที่จะดำเนินคดีตามฏกหมายต่อไป