รวบแก๊งค้ายาบ้าเครือข่ายเรือนจำชลบุรี |
|
รวบแก๊งค้ายาบ้าเครือข่ายเรือนจำชลบุรีเปิดอู่ซ่อมรถยนต์บังหน้าได้ยาบ้า160 เม็ด เงินสด300,000 บาท
เมื่อเวลา 18.30น.( 6 มิ.ย.54) พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี สวป.สภ.ศรีราชาพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตู้ยามนาพร้าว ได้สืบทราบว่ามีเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ในพื้นที่มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าให้แก่กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จึงได้วางแผนเข้าจับกุมโดยเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 21 หมู่7 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชาพบนายอุทิศ ทองแก้ว อายุ 37 ปีเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์จึงขอเข้าตรวจค้นภายในบ้านพบยาบ้าจำนวน 150 เม็ดซุกซ่อนอยู่พร้อมกับเงินสดจำนวน 300,000 บาท พร้อมบิลเงินสดที่มีการเขียนชื่อลูกค้าในการจำหน่ายยาบ้าจำนวน 4 เล่ม ซึ่งมีเงินหมุนเวียนวันละ20,000-30,000 บาทหลังจากนั้นจึงได้นำตัวมาสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การว่ารับยาบ้ามาจากนายปรีชา สนธิลาภ อายุ 36 ปี ซึ่งเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำชลบุรีได้ไม่นาน ได้นำยาบ้ามาส่งให้เป็นประจำทุกวันเพื่อไปจำหน่ายให้ลูกค้าซึ่งเป็นเยาวชนและคนทำงานตามโรงงานส่วนเงินที่ตำรวจพบนั้นได้มาจากการจำหน่ายยาบ้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนให้ติดต่อให้นายปรีชานำยาบ้ามาส่งให้ที่บ้านอีก 50 เม็ด หลังจากนั้นทางตำรวจได้วางกำลังไว้ในบ้านและรอบบ้าน หลังจากนั้นนายปรีชาก็ได้ขี่รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ100 สีดำหมายเลขทะเบียน งจฉ-117 ชลบุรี มาตามนัดหมายแต่ไหวตัวทันเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขี่รถยย.หลบหนีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขี่รถจยย.ไล่ติดตามจับกุมตัวได้แต่ยาบ้าที่สั่งซื้อ 50 เม็ดได้ถูกโยนทิ้งไว้ตามถนนแต่ค้นหาพบแค่เพียง5 เม็ด โดยนายปรีชาผู้ต้องหาได้ให้การว่าพักอาศัยนอนอยู่ที่ศาลาวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ศรีราชาเนื่องจากไม่มีบ้านอยู่และสิ่งของบางอย่างได้ฝากไว้ในกุฏิพระเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจค้นในกุฏิพระก็พบการหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อเจ้าของบัญชี ณัฐพร ลายุกต์ วันละ20,000-30,000 บาททุกวัน รวมถึงยังพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกล่องด้วย หลังจากนั้นจึงนำตัวมาสอบสวนให้การว่าเป็นเครือข่ายยาบ้าจากเรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี เนื่องจากไปถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำแล้วรู้จักกับนักโทษที่ค้ายาเสพติดในแดน 5 ได้ชักชวนให้รับยามาจำหน่ายในพื้นที่ศรีราชา โดยทางนักโทษในเรือนจำจะเป็นคนสั่งให้ลูกน้องนำยามาวางตามจุดต่างๆแล้วจะโทรบอกให้ไปรับหลังจากนั้นก็ให้โอนเงินไปในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ตามที่ตำรวจค้นพบ หลังจากนั้นทางตำรวจจึงได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากเครือข่ายเดียวกันจนสามารถจับกุมตัวนายทิวาพร เขียวศิริ อายุ 39 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 5 เม็ดซึ่งได้ให้การว่าการรับยานั้นจะนำมาจากนายอุทิศ เจ้าของอู่ที่ตำรวจจับกุมตัวได้คนแรก ซึ่งตำรวจได้ตั้งข้อหานายอุทิศว่ามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย ส่วนนายปรีชาและนายทิวาพรนั้นโดนข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย |