แม่ค้าเข็นถังพลาสติกเดินเร่ขายถูกโจ๋ร่างใหญ่หลอกจะพาไปให้แม่ที่บ้านซื้อแล้วพาเดินเข้าไปถนนทางป่า
 แม่ค้าเกิดเอะใจพยายามจะเดินกลับ

แต่ถูกคนร้ายจอดรถจักรยานยนต์ที่ขับตามมาหลอกจะพาไปบ้านดักไว้แล้วปรีเข้ามาชกและแตะจนร่างทรุดตามด้วยบีบคอหวังให้ตายจึงยกมือไหว้ขอชีวิตพร้อมส่งทรัพย์สินที่เพิ่งจะขายของได้ให้ไปแต่ไม่หน่ำใจแตะเข้าที่ใบหน้าจนหวิดสลบแล้วขับรถหลบหนีไปส่วนแม่ค้าตั้งสติได้เดินออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
24มิ.ย.54 พ.ต.ต.พลากร วีระจิตต์ สารวัตรเวร สภ.ศรีราชา
รับแจ้งจากตู้ยามผาแดงว่ามีชาวบ้านพาแม่ค้าเข็นถังพลาสติกเดินเร่
ขายถูกคนร้ายหลอกเข้าไปในซอยทางเปลี่ยวคอเขาอุตพงษ์ ม.4  ต.สุรศักดิ์
อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มาแจ้งขอความช่วยเหลือที่ตู้ผาแดง
  ที่ตู้สายตรวจผาแดงพบหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชากำลังเข้าปฐมพยาบาลและทำแผลนางสาวอุมาพร
แซ่ลิ้ม อายุ36ปี ที่อยู่47/4 ม.1 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
แม่ค้าเดินเร่ขายถังตะกร้ากะละมังพลาสติกแล้วถูกคนร้ายหลอกไปจี้ชิงทรัพย์
และซ้อมจนมีบาดแผลใบหน้าปูดบวมช้ำตาขวาจนตาเกือบปิดและรอยถูกบีบที่ลำคอฟกช้ำตามร่างกายและที่ท้อง
กำลังให้รายละเอียดกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตู้ผาแดงในสภาพบาดแผลปูดบวมฟกช้ำและสะบักสะบอมไปทั้งตัวก่อนที่จะนำส่งโรงพยาบาลอ่าวอุดมให้แพทย์รักษาต่อไป
             สอบถามนางสาวอุมาพร แม่ค้าเดินเร่
ที่ยังอยู่ในอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เล่าว่า
ได้นั่งรถมากับนายจ้างจากจังหวัดสมุทรปราการเพื่อมารับจ้างเดินเร่ขายถังตะกร้าและกะละมังพลาสติก
เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวโดยมากันทั้งหมด8 คน
นายจ้างได้ส่งตัวเองลงขายอยู่ที่แหลมฉบัง-อ่าวอุดม
จึงได้เดินขายมาเลื่อยเส้นถนนสุขุมวิทจนถึงคอเขาอุตพงษ์ก็มีชายวันรุ่นขับรถจักรยายนต์มา2
คันขับประกบข้างแล้วถามว่า
"ถังขายหรือเปล่าพอดีแม่ที่อยู่บ้านบริเวณใกล้กับจุดที่ถามต้องการจะซื้อ"จึงบอกว่าขายแล้วให้ตนเองเดินเข็นรถตามมาพอถึงซอยดังกล่าววัยรุ่นที่มาด้วยกันก็แยกทางไปก่อนที่คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ผิวค้ำที่ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงินจำทะเบียนไม่ได้จะให้ตนเข็นตามลงมาในซอย
จึงคิดว่าไม่มีอะไรเพราะปากซอยที่ลงมามีชาวบ้านอยู่แต่พอลงไปได้ประมาณ300เมตรเห็นว่าสองข้างทางมีแต่ป่าและเป็นตีนเขา
จึงไม่อยากจะขายและพยายามจะเดินกลับออกมาที่ปากซอยแต่ถูกโจ๋ร่างใหญ่ก็แสดงตัวเป็นคนร้ายและปรี่ชกเข้าที่หน้าตนอย่างแรงและแตะซ้ำจนล้มลงก่อนที่จะพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ถูกคนร้ายบีบคอหวังให้ตายตนจึงได้ยกมือไหว้ขอชีวิตแล้วส่งกระเป๋าสะพายที่มีเงินจากการขายของมาได้ประมาณ1,500บาทให้คนร้ายไปแต่คนร้ายไม่หน่ำใจกลัวตนเองจะรีบออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านจึงได้ชกเข้าที่ท้องอย่างแรงหลายครั้งจนล้มลงแล้วก็แตะเข้าที่ใบหน้าจนเกือบหมดสติจากนั้นคนร้ายก็รีบขับรถหลบหนีไป
หลังจากตนเองตั้งสติได้จึงพยายามเดินออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแล้วก็พามาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งหลังจากรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดกั้นตามเส้นทางต่างๆแต่ไม่พบคนร้าย
จึงจะได้นำรูปประวัติคนร้ายที่มีอยู่ไปให้ผู้เสียหายดูว่ามีรูปคนร้ายหรือไม่เนื่องจากผู้เสียหายยืนยันว่าสามารถจำหน้าผู้ก่อเหตุได้ดีเพื่อที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป ชำนาญ สวนศรี ภาพ / ข่าว