เจ้าหน้าที่ตำรวจศรีราชาตามรวบลูกเลี้ยงอกตัญญูติดยาบ้างอมแงมหลอกพ่อบุญธรรมที่เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กหลอกมาฆ่าโหดฟันคอจนหวิดขาดโดยให้ปากคำระหว่างทำแผนหลังก่อเหตุแล้วอย่างไม่สะทกสะท้านกับการกระทำผู้มีพระคุณเลย

 เมื่อเวลา09.30น. วันที่ 9 ก.ค.54 หลังจากนางประสิทธิ์ ศาลาทอง อายุ59ปีได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลอ่าวอุดมเพื่อขอดูศพหนุ่มใหญ่ไม่ทราบชื่อที่ถูกฆ่าฟันคอหวิดขาดอย่างเหี้ยมโหดว่าเป็นสามีที่หายตัวออกมาจากบ้านในพื้นที่บางละมุงหรือไม่และเมื่อตรวจดูศพก็พบว่าหนุ่มใหญ่ที่ถูกคนร้ายลวงมาฆ่าคือนายวน เกตุทอง อายุ64ปี อยู่บ้านเลขที่34/4 ม.9 ต.โป่ง อ.บางละมุงจ.ชลบุรีสามีที่เดินไม่ได้แล้วหายตัวออกมาจากบ้านตั้งแต่บ่ายวันที่ 7ก.ค.54และได้ตามหาจนมาพบกลายเป็นศพถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดต่อมานางประสิทธิ์จึงได้รีบเดินทางมาที่ สภ.ศรีราชาเพื่อให้ปากคำกับพ.ต.ท.สุทิน นิลแย้ม พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชาเจ้าของคดีโดยให้การว่าผู้ตายคือนายวน เกตุทอง อายุ64ปีสามีได้หายตัวออกมาจากบ้านเลขที่34/4 ม.9 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรีตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.54 ช่วงบ่ายซึ่งมีชาวบ้านเห็นว่ามีชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ100สีน้ำเงินเทา เข้าไปรับผู้ตายแล้วพานั่งซ้อนท้ายรถออกมาซึ่งหลังจากนายวนผู้ตายหายออกมาตนก็ได้พยายามออกตามหาแต่ก็ไม่พบตัวจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ.บางละมุงไว้เป็นหลักฐาน จนวันรุ่งขึ้นนางกัญญา รื่นเริง อายุ54ปี
ภรรยาเก่าได้มาแจ้งว่าผู้ตายได้มาเข้าฝันว่านอนอยู่ที่โรงพยาบาลอ่าวอุดมให้ช่วยมารับกลับบ้านทีจึงได้รีบมาดูก็พบว่านายวนเสียชีวิตแล้วด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกนางกัญญา ภรรยาเก่ามาสอบปากคำภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนอยู่นานเพราะไม่เชื่อผู้ตายจะมาเข้าฝันได้จริงจึงให้การรับสารภาพว่าผู้ก่อเหตุคือนายนพพรทามะฤทธิ์ อายุ27ปี ลูกชายตัวเองที่นายวนเคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนโตเปรียบเสมือนลูกตัวเองก่อนที่จะไปมีภรรยาใหม่โดยที่หลังจากก่อเหตุแล้วนายนพพรได้เข้าไปหาตัวเองที่บ้านเลขที่322/70-71 ม.8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชาที่พักอาศัยอยู่เพื่อขอเปลี่ยนเสื้อผ้าและเอารถจักรยายนต์ซ่อนไว้ที่บ้านแต่นางกัญญาเห็นว่าตามร่างกายและเสื้อผ้ามีรอยเปื้อนเลือดเต็มทั่วร่างจึงได้ทราบถามนายนพพรจึงสารภาพว่าได้หลอกนายวนพ่อเลี้ยงมาฆ่าทิ้งไว้ที่ป่าหญ้าข้างทางถนนสายท่อน้ำหมู่ที่1 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีจึงได้ไล่ออกจากบ้านไปซึ่งไม่เคยคิดว่านายนพพรจะฆ่าคนที่เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนโตได้พอเช้าจึงได้ไปดูที่บ้านนายวนก็ไม่พบและกลัวว่าลูกชายจะถูกดำเนินคดีจึงได้หลอกว่าเมื่อคืนฝันว่านายวนมาเข้าฝันว่านอนอยู่โรงพยาบาลอ่าวอุดมให้ไปรับกลับบ้านทีจนนางประสิทธิ์ไปดูก็พบว่านายวนถูกฆ่าตายแล้วหลังจากสอบปากคำนางกัญญาภรรยาจึงได้รีบนำกำลังชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบห้องพักที่นายนพพรไปแอบพักอาศัยอยู่ในซอยถั่วงอกพื้นที่อ.บางละมุงโดยทางเจ้าหน้าที่สามรถจับกุมนายนพพรได้ทันควันขณะที่ยังไม่ทันตั้งตัวแล้วนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ศรีราชา นายนพพรลูกเลี้ยงอกตัญญู ให้การว่าได้ก่อเหตุใช้มีดฟันพ่อเลี้ยงที่เคยมีพระคุณที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กพอโตขึ้นหันแหชีวิตไม่หมกมุ่นกับยาเสพติดจริงโดยได้เดินทางไปขอเงินจากนายวน
ซึ่งนายวนไม่มีให้จึงได้หลอกให้โอนที่ดินที่นายวนอยู่ให้ตนเองแต่นายวนไม่สามารถให้ได้เพราะไม่ใช่ชื่อของนายวนจึงทำให้นายนพพรเกิดความแค้นที่ไม่มีเงินไปซื้อยามาเสพจึงได้ออกอุบายแล้วหลอกพ่อที่เคยเลี้ยงดูมาฆ่าอย่างโหดเหี้ยมและนายวนได้เคยบอกว่าถ้าได้ที่ดินแล้วจะยกที่ดินให้แต่ก็ยังไม่ยกให้สักทีจึงได้เข้าไปรับแล้วหลอกมาว่าจะพาไปหาแม่ตนก่อนจะคุยเรื่องที่ดินแต่นายวนกับยังปฎิเสธที่จะยกให้จึงได้เกิดโมโหใช้มีดที่เตรียมมาอยู่ใต้เบาะออกมาฟันแล้วเชือดเข้าที่ลำคอจนนายวนที่เดินไม่ได้ล้มลงแล้วเสียชีวิดังกล่าว
และหลังจากก่อเหตุแล้วได้รีบขับรถจักรยายนต์เข้าไปขอความช่วยเหลือจากแม่แต่ถูกปฎิเสธจึงได้ขับรถไปแวะที่บ้านเลขที่7/3ม.3ต.สุรศักดิ์อ.ศรีราชาในซอยบ่อก๊อกบ้านเพื่อนก่อนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเอารถซ่อนไว้แล้วรีบขึ้นรถหลบหนีไปกบดานที่ห้องพักบางละมุงจนเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรวบตัวได้ทันควัน
หลังจากสอบปากคำแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังคุมตัวนายนพพรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยที่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายนพพรลงมาแล้วให้ไหว้ขอขมาพ่อบุญธรรมที่เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กกับถูกนายนพพรผู้ต้องหาปฎิเสธที่จะไหว้แล้วบอกว่า
"ผมไม่ไหว้เพราะคนที่ผมฆ่านั้นไม่ใช่พ่อผมเพราะพ่อผมตายไปตั้งแต่เล็กแล้วส่วนที่ผมฆ่านั้นผมคิดว่าเป็นแค่ตาลุงแก่ๆคนนึงที่เคยเลี้ยงผมมาเท่านั้น"ทางตำรวจจึงได้ให้นายนพพรผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยที่ผู้ต้องหารับมาจุดเกิดเหตุแล้วจอดรถคุยเรื่องให้โอนที่ให้แต่ถูกปฎิเสธจึงโมโหเปิดเบาะรถจักรยานยนต์หยิบมีดออกมาฟันที่หน้าอกไป
1 ครั้งจนนายวนที่เดินไม่ค่อยได้ล้มลงแล้วนายนพพรลูกเลี้ยงสุดเหี้ยมก็จิกหัวนายวนขึ้นมาก่อนจะใช้มีดปาดเข้าที่ลำคอจนนายวนหงายหลังลงไปนอนดื้นทุรนทุรายแล้วนายนพพรผู้ต้องหาก็ยังใจเย็นหันไปหยิบบุหรี่ใต้เบาะรถมาสูบอย่างสบายใจก่อนที่จะหันกลับมาแล้วจิกหัวผู้ตายขึ้นมาแล้วปาดคอซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจว่าเสียชีวิตแน่ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปที่บ้านแม่และบ้านเพื่อนจนถูกตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
และหลังจากนั้นชาวบ้านที่ทราบข่าวและมาไม่ทันทำแผนต่างพูดกันว่านายนพพรที่นายวนผู้ตายเคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กสุดเหี้ยมไม่น่าเกิดมาเป็นคนได้เลยแล้วพากันแยกย้ายไป
ส่วนตัวนายนพพรหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วได้นำตัวไปตามจุดต่างๆที่นายนพพรไปก่อนที่จะนำตัวกลับมาสอบสวนเพิ่มเติมแล้วดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ชำนาญ สวนศรี ภาพ / ข่าว