|
|
|
|
Home
|
นำตัวแก๊งทวงหนี้นอกระบบทำแผนประกอบคำรับสารภาพ |
|
ผบช.ภ.2 นำตัวแก๊งทวงหนี้นอกระบบที่อ้างเป็นนายทหาร ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันและใช้ปืนยิงลูกหนี้เสียชีวิตหลังทวงหนี้ไม่ได้มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เมื่อเวลา 11.00 น. ( 9 ก.ย. 54 ) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศตรู ผบช.ภ. 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รองผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผกก.สภ.หนองขาม และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาแก๊งหมวดคม แก๊งทวงหนี้นอกระบบซึ่งตัวหัวหน้าอ้างเป็นนายทหารที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันและยิงลูกหนี้จนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไปหลังก่อเหตุโดย ผู้ต้องหาจำนวน 3 คนคือ นายคมสันต์ โตเรือง หรือหมวดคม อายุ 28 ปี หัวหน้าแก๊ง , นายประสิทธิ์ สุขเจริญ อายุ 48 ปีมือปืนยิงลูกหนี้ และนายกฤษดา ผาสุก อายุ 39 ปี พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด . 38 จำนวน 1 กระบอก และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา รุ่นมังกร หมายเลขทะเบียน บว – 5184 ชลบุรี มาทำแผนประกอบคำสารภาพที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา ภายหลังจากเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ร่วมกับนายลักษณ์ มั่นยืน เพื่อนร่วมแก๊งอีกคนที่ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งทั้งหมดตั้งตัวแป็นแก๊งทวงหนี้นอกระบบให้นายทุนเงินกู้ในพื้นที่จ.ชลบุรี โดยใช้ชื่อ แก๊งหมวดคม โดยมีนายคมสันต์ที่แอบอ้างตัวเป็นนายทหารยศร้อยโท สังกัดกรมทหาราบแห่งหนึ่งในพื้นที่ชลบุรี และมารับงานเป็นแก๊งทวงหนี้โหด ข่มขู่ให้ลูกหนี้เกิดความเกรงกลัวจ่ายหนี้สินที่ค้างไว้กับเจ้าหนี้ถ้าไม่ได้ก็จะชกต่อยตบตีจนกว่าจะได้เงินหรือทรัพย์สินมีค่าไปให้เจ้าหนี้ก็จะเลิกตามราวีหรือรังควานลูกหนี้ ซึ่งทั้ง 4 คน ได้เดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าลูกหนี้ไม่อยู่บ้านจึงได้พากันไปนั่งดื่มสุราที่ร้านอาหารใกล้ที่เกิดเหตุจนเมาได้ที่ ก่อนพบว่าลูกหนี้ได้เข้ามาบ้านแล้วจึงพากันเดินเข้าทวงหนี้นายธเนตร์ พิณงาม อายุ 34 ปี อาชีพวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ในบ้านที่เกิดเหตุจำนวน 5,000 บาท โดยได้กู้เงินมาจากนายสมพงษ์ เพ็ญงามดี อายุ 60 ปี เจ้าหนี้เงินกู้ แต่ด้วยความเมาและเคยมาทวงหนี้หลายครั้งแต่นายธเนตร์และภรรยาไม่เคยจ่ายให้แถมยังใช้อาวุธมีดฟันที่แขนนายประสิทธิ์ จึงทำให้เกิดบันดาลโทสะนายประสิทธิใช้อาวุธปืนที่พกพามาด้วยยิงนายธเนตจำนวน 2 นัดจนล้มฟุบลงกับพื้นห้อง และนายกฤษดากับนายลักษณ์ก็ได้เข้าใช้อาวุธมีดสปาต้ารุมฟันนายธเนตร์จนเสียชีวิต ก่อนพากันขึ้นรถยนต์แล้วขับหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผกก.สภ.หนองขาม ได้สั่งการให้พ.ต.ต.เอนก บุตรอินทร์ สว.สส.หนองขามพร้อมชุดสืบสวนนำกำลังออกสืบสวนหาร่องรอยคนร้ายจนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนมาได้ โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพ ทางตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และทางตำรวจได้ขอหมายศาลเพื่อติดตามจับกุมนายลักษณ์ มั่นยืน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนนายสมพงษ์ เพ็ญงามดี อายุ 60 ปี เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบได้ถูกตำรวจจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยนายสมพงษ์อ้างว่าใช้ให้ไปทวงหนี้เท่านั้นไม่ได้สั่งให้ทำร้ายลูกหนี้จนเสียชีวิต และได้ขอประตัวออกมาเพื่อต่อสู้คดี ระหว่างที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นั้น มีประชาชนและภรรยาของผู้เสียชีวิตและญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตมาดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น มีชายวัยรุ่น ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิต อดใจไม่ไหววิ่งแหวกวงล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระโดดเข้าชกต่อยผู้ต้องหาไปหลายหมัด จนเจ้าหน้าที่ต้องจับแยกเป็นการด่วน พร้อมกันกลุ่มประชาชนที่มามุงดูให้ออกห่างจากจุดทำแผน เพราะหวั่นจะมีเหตุรุมประชาทัณท์ ด้าน พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า กรณีที่ประชาชนไปกู้เงินนอกระบบนั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และไม่ควรไปกู้เงินนอกระบบอย่างเด็ดขาด แต่หากกู้ไปแล้วควรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้บ้าง เพื่อตรวจสอบนายทุนรายดังกล่าวว่ามีพฤติกรรมเช่นไร เพราะหากปล่อยให้ปัญหาบานปลาย ก็อาจจะเหมือนรายที่เกิดเหตุครั้งนี้ ซึ่งมีการทวงหนี้ มาหลายครั้งแล้ว จนมาเสียชีวิตดังกล่าว นอกจากนั้นแก๊งทวงหนี้กลุ่มนี้ ยังแอบอ้าง โดยเฉพาะนายคมสันต์ โตเรือง ทีอ้างเป็นนายทหารยศร้อยโทสังกัดกรมทหารราบ แต่ในความเป็นจริงเป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น โดยไปตัดเสื้อผ้าชุดทหารและนำมาแขวนไว้ในรถ พร้อมพกนามบัตรทีระบุตำแหน่งและยศทางทหาร ไว้ข่มขู่ลูกหนี้ด้วย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อหน่วยงานต้นสังกัด ดังกล่าว โดยเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหาด้วย แต่ในแก๊งทวงหนี้กลุ่มนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่อยู่ระหว่างหลบหนี คือ นายลักษณ์ มั่นยืน ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดชลบุรี ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายหลังทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป |
|