ตร.ทท.เมืองพัทยาตามเรือยอชต์เศรษฐีพันล้านตลาดน้ำพัทยาได้แล้ว

        เหตุการณ์รายนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ เวลา 08.00 น.ของวันที่ 20 ก.ย.54 เมื่อ นาง วะริดา แซ่อึ้ง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/40 หมู่บ้านจอมเทียนยอชต์คลับ 3 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เศรษฐินีพันล้านเจ้าของโครงการตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา และสวนอาหารเลควิวพัทยา ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย ด.ต.จงรัก คณารัตน์  ผบ.หมู่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยาว่า เรือยอชต์ที่ถูกขโมยไปนานเกือบ 5 ปี ที่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ ร.ต.ท.ปิติชน เทอดเกียรติกุล ร้อย เวร สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 15 ต.ค.50 ที่ผ่านมา ขณะนี้พบแล้ว และได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา เลขที่ 451/304 ม.12 ถนนสุขุมวิท-พัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  จึงได้นำหลักฐานมาแสดงความเป็นเจ้าของ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบด้วย

             หลังรับแจ้งจึงได้เดินทางมาตรวจสอบที่ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา พบเรือยอชต์ หรือเรือสำราญขนาดใหญ่ชั้นเดียว ชื่อ “เบส” ตัวเรือทำด้วยไฟเบอร์กลาส ยาว 7.80 เมตร กว้าง 2.80 เมตร กินน้ำลึก 1.40 เมตร เครื่องยนต์วอลโว่ แบบตั้ง 2 เครื่องยนต์ ตั้งอยู่บนเครนลากเรือ ในสภาพเรือถูกจอดทิ้งไว้นานโดยไม่ได้ใช้งาน โดยมี พ.ต.ท.อรุณ พร้อมพันธ์  สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายมนัส มีพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา เจ้าของเรือลำดังกล่าวคอยให้การต้อนรับ

โดย นายมนัส มีพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา ยืนยันว่าเป็นเรือของตนเองที่หายไปตั้งแต่ปี 2550 สภาพเรือถูกแก้ชื่อจากเบสเป็น หมายเลข 43210074-2 แทน และมีรอยสติ๊กเกอร์ที่ติดชื่อนายทหารบก ยศพลโท และถูกแกะออกแต่สามารถอ่านชื่อได้อย่างชัดเจน พร้อมกับกล่าวว่าได้ซื้อเรือลำดังกล่าวมาจาก น.ส. สว่างวงศ์ สัตตบุศย์ อายุ 39 ปี พนักงานในเครือสหพัฒน์ ในราคา 2 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นเรือยอชต์ ลำดังกล่าวเครื่องยนต์ได้ถูกถอดออก และจอดทิ้งร้างจนโครงสร้างผุพัง เก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 107/40 หมู่บ้านจอมเทียนยอชต์คลับ 3 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งอดีตเคยเป็นบ้านของ น.ส.สว่างวงศ์ ลูกบุญธรรม ของอดีตนายทหารยศนายพลคนหนึ่ง และตนยังได้ขอซื้อบ้านหลังดังกล่าวไว้ในราคา 5 ล้านบาทอีกด้วย

        และต่อมาได้นำเรือยอชต์ไปเข้าอู่แห่งหนึ่งย่าน ถ.เทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ เพื่อซ่อมแซมตัวเรือและใส่เครื่องยนต์ยี่ห้อ วอลโว่ เพนต้า ขนาด 6 X 2 จำนวน 2 เครื่อง พร้อมกับตกแต่งภายในทำเป็นห้องนอน, ห้องน้ำ และห้องครัวอย่างหรูหรา หมดงบประมาณไปกว่า 5 แสน เรือลำนี้หากซื้อใหม่ราคาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท  หลังจากทำเรือเสร็จจึงนำไปลองเครื่องในทะเล ย่านชายหาดจอมเทียน และนำไปฝากจอดไว้ที่ท่าจอดเรือยอชต์ หมู่บ้านจอมเทียนยอชต์คลับ 3 ซึ่งเป็นบ้านของคนรู้จัก อยู่ตรงข้ามกับบ้านที่ตนซื้อทิ้งไว้ โดยได้ผูกเรือทั้งหัวและท้ายไว้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันที่ 14 พ.ค.50  จึงเดินทางไปดูเรือที่จอดฝากไว้ แต่ปรากฏว่าเรือยอชต์สุดหรูของตนได้หายไปจากท่าน้ำ และมีร่องรอยคนร้ายตัดเชือกผูกเรือจนขาด จึงสอบถามคนดูแลบ้านหลังดังกล่าวและทราบว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์มาตัดเชือกผูกเรือแล้วนำเรือเล็กมาลาก ออกสู่ทะเลทางด้านร้านอาหารต้นหาดแล้วหายไป  จึงได้ตั้งรางวัลให้กับผู้ที่ทราบเบาะแสและสามารถติดตามเรือกลับคืนมาได้จะให้รางวัล 50,000 บาททันที

        และต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ผู้ที่นำเรือยอร์ชลำดังกล่าวไปคือ นาย เทวดา สัตตบุศย์ อายุ 21 ปี บ้านอยู่ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ 126/2552 ลง 6 ก.พ.52 เพื่อติดตามจับกุมตัว นาย เทวดา สัตตบุศย์ ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป นอกจากนี้แล้ว ยังมีหมายจับค้างเก่า ในคดีฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่นเหตุจากลวงคนมาทำงานแล้วไม่จ่ายค่าแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวอยู่เช่นกันซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ ดีใจมากที่ได้เรือคืนมาอย่างไม่คาดฝันต้องขอขอบคุณ ตร.ท่องเที่ยวเมืองพัทยา ที่ติดตามเรือกลับคืนมาได้ในครั้งนี้ 

            ด้าน พ.ต.ท.อรุณ พร้อมพันธ์  สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้กล่าวว่า พฤติกรรมแห่งการตรวจยึดนั้นเกิดขึ้นจาก นาย มนัส มีพงษ์ เจ้าของเรือซึ่งแจ้งหายไว้กับ พนักงานสอบสวน สภ.นาจอมเทียน เมื่อ 16 ต.ค.50  และจากการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า เรือยอชต์ ลำดังกล่าวได้นำไปจอดหลบซ่อนไว้ในป่าหญ้า ที่บ้านเลขที่ 85/ 1 หมู่ 4 ต.พงตึก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จึงให้เจ้าหน้าที่ ประกอบ ด้วย ร.ต.อ.กรกช ยงยืน รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมด้วย ด.ต.จงรัก คณารัตน์ ด.ต.สุระชาติ สุขสว่าง ผบ.หมู่ ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.เมืองพัทยา จสต.ชำนาญ เรืองเทศน์ ผบ.หมู่ ส.ทท.8 กก.2 บก.ทท. จสต.ศักดิ์นรินทร์ แก้วมูลมุข ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป. ด.ต.เสนอ สดแสงจันทร์ ผบ.งานสืบสวน สภ.ท่ามะกา ร่วมกันตรวจยึดเรือยอชต์ไว้  โดยมี นาย อภิรมย์ ทรัพย์ภากร ผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าวได้ยินยอมให้ตรวจยึด เพื่อนำเรือมาตรวจสอบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และหากตรวจสอบแล้ว เป็นเรือที่ถูกขโมยมา จะได้ทำหนังสือเรียกตัวนาย อภิรมย์ ทรัพย์ภากร เจ้าของบ้านมาสอบสวนถึงการได้มาซึ่งเรือลำดังกล่าวได้อย่างไร เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

อุดมเกียรติ  ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว