เจ้าของธุรกิจ 3 รายร้องเรียนเหยี่ยวข่าวเมืองพัทยา ถูกเจ้าของที่ดินสั่งลูกน้องให้มารื้อห้องเช่าขนย้ายข้าวของโดยพละการ ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 3 ต.ค.54 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนางมนัสนันท์ ใจคงสุวรรณ อายุ 45 ปี เจ้าของบริษัท เพาเวอร์เวฟส์เอสเตท จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 291/3 ยูนิตที่ 3-4 กลางซอย 5 ถ.เลียบชายหาดพัทยา หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าที่บริษัทฯ ของตัวเอง และร้านใกล้เคียงที่อยู่ใกล้ๆ กันอีก 2 ร้าน ถูกกลุ่มคนมางัดแล้วขนทรัพย์สินออกมาไว้ด้านนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย จึงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงพบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นห้องแถวให้เช่าชั้นเดียว ปลูกเรียงรายติดกันนับ 10 ยูนิต มีนางมนัสนันท์ พร้อมด้วย น.ส.เดวี่ สุศิวะพร อายุ 36 ปี เจ้าของร้านพอล คูทเชอร์ รับตัดสูท และนายบุญลอด ใหม่วงษ์ อายุ 24 ปี เจ้าของร้านฝ้ายบิวตี้ ซาลอน ยืนรอผู้สื่อข่าวอยู่ พร้อมกับชี้ให้ดูร่องรอยประตูหน้าร้านที่ถูกงัดแงะ ข้าวของเครื่องใช้ อาทิ โต๊ะทำงาน-เก้าอี้ อุปกรณ์เสริมสวย คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สำนักงาน และเสื้อผ้า ของทั้ง 3 ร้าน ถูกยกออกมาไว้ภายในห้องเปล่า 2 ห้องที่อยู่ติดกัน แต่ไม่มีประตูปิดกั้น โดยมีกลุ่มคนงานจำนวน 5 คน พร้อมอุปกรณ์ช่าง ยืนอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อทราบว่ามีผู้สื่อข่าวไปทำข่าว จึงขนอุปกรณ์พากันขึ้นรถสองแถวเดินทางกลับ ต่อมานางมนัสนันท์ พร้อมพวก ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ณัฐวรรธฏ์ ศรีทองเพชร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้ดำเนินการกับผู้ที่ว่าจ้างคนงานกลุ่มดังกล่าวไปทำการงัดร้านและขนทรัพย์สินออกมา ในข้อหาบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ จากนั้นนางมนัสนันท์ ได้เปิดเผยว่า ตนได้ทำสัญญาเช่าห้องจำนวน 2 ห้องจากนางขวัญใจ อุปรา เจ้าห้องแถว เพื่อเปิดบริษัททำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ประมาณ 1 ปีแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน โดยจ่ายค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท และมีระยะเวลาของสัญญา 1 ปี ซึ่งตอนแรกนางขวัญใจ รับปากว่าจะให้เช่าอยู่ในระยะยาว 3-5 ปี ตนจึงลงทุนทำร้านหมดไปหลายแสนบาท แต่พอหมดสัญญาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.54 นางขวัญใจ กลับไม่ยอมต่อสัญญาเช่าให้ โดยอ้างว่าจะขายที่ดินผืนดังกล่าวให้กับนักธุรกิจคนหนึ่งในเมืองพัทยา เพื่อสร้างคอนโดมิเนียมหรูริมชายหาด พร้อมกับส่งกลุ่มชายฉกรรจ์พกอาวุธปืนมาข่มขู่และไล่ให้ออกไปอยู่ที่อื่นหลายต่อหลายครั้ง จนผู้ประกอบการบางรายทนไม่ไหวต้องขนของย้ายหนีออกไป และถึงขั้นมีเรื่องฟ้องร้องกัน ซึ่งศาลได้นัดเจรจาไกล่เกลี่ยในวันที่ 4 ต.ค.นี้ แต่ตนสงสัยว่าทำไมนางขวัญใจ ต้องส่งทนายและคนมาทำการงัดร้านแล้วขนย้ายข้าวของของพวกตนด้วย ทั้งๆ ที่ศาลได้นัดไว้แล้วก็น่าจะรอเจรจาพูดคุยกันดีๆ พวกตนจึงต้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวและเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว ต่อมา พ.ต.ท.ณัฐวรรธฏ์ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเปิดเผยว่า คดีนี้น่าจะแจ้งข้อหาบุกรุกได้ ส่วนข้อหาทำให้เสียทรัพย์นั้น คงต้องรอผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย ตรวจสอบทรัพย์สินอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีสิ่งใดเสียหายหรือไม่ และจะได้เชิญคู่กรณีมาทำการสอบปากคำหาข้อสรุปของคดีนี้ต่อไป. อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล ภาพ / ข่าว
|