Home
|
เทศบาลเมืองสัตหีบ จัดกิจกรรมส่งเสริมผู้สูงอายุ |
|
เทศบาลเมืองสัตหีบ จัดกิจกรรมส่งเสริมผู้สูงอายุ
ยอดพุ่ง 800 คนเผยผู้สูงอายุเข้าร่วมชมรมมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องรัฐจ่ายเบี้ยยังชีพ แต่เป็นเพราะมีความสุข สนุกสนานพบปะเพื่อนผู้สูงอายุร่วมกิจกรรมคลายเหงาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วันนี้ ( 7 ต.ค.54 ) นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศบาลเมืองสัตหีบได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ส่งเสริมกิจกรรมชมรมผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองสัตหีบ ประจำปี 2554 ณ ศาลาผักผ่อนชายทะเล หน้าที่ว่าการอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีสมาชิกสภาเทศบาลเมืองสัตหีบ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้สูงอายุกว่า 500 คนเข้าร่วมโครงการและพิธีเปิด นางอ้อย ปลีเจริญ ผู้อำนวยการ กองสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมือง กล่าวว่าสำหรับผู้สูงอายุ จะเข้ามาเป็นสมาชิกในชมรมจะต้องมีเงื่อนไขของผู้สมัคร ต้อง มีสัญชาติไทย อายุ 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใด จากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ ผู้รับเงินเบี้ยยังชีพตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย หรือกรุงเทพมหานคร ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทนรายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่จัดให้เป็นประจำ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศบาลเมืองสัตหีบเปิดเผยว่า อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลออกกฎหมายผู้สูงอายุฉบับใหม่ และกำหนดให้จ่ายเบี้ยยังชีพกับผู้สูงอายุทุกคนไปตลอดชีพ ก็จะมีความชัดเจนเพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องทำตามกฎหมายแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ มีผู้สูงอายุกลุ่มแรกประมาณ 2 ล้านคน ได้รับเบี้ยยังชีพ 500 บาททุกเดือน ไปจนกว่าจะเสียชีวิต ขณะที่ผู้สูงอายุอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังมาขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพ มีสิทธิได้แค่ 6 เดือนและไม่รู้ว่าจะได้ต่อหรือไม่ ทั้งที่จริง ๆ แล้วเงิน 500 บาทถือว่าน้อยเกินไปด้วยซ้ำ จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการปฏิรูประบบสวัสดิการสังคม ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงและเป็นที่น่าสังเกตอย่างมากก็คือ ขณะนี้ได้มีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรม หรือชมรมผู้สูงอายุใดๆ มาก่อนให้ความสนใจเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองสัตหีบ จำนวนมาก ขณะนี้มียอดถึง 800 คน ซึ่งได้สอบถามผู้สูงอายุในกรณีที่ได้รับเบี้ยยังชีพ 500 บาท แต่ปรากฏว่าผู้สูงอายุสัตหีบ ส่วนมากเป็นข้าราชการปลดเกษียณ ไม่ได้มุ่งหวังเงินช่วยเหลือเพราะมีเงินบำเหน็จ บำนาญ ใช้จ่ายในแต่ละเดือนอยู่แล้ว ส่วนที่มาร่วมชมรมเพราะต้องการมาพบกับเพื่อนผู้สูงอายุด้วยกัน อยู่บ้านก็เหงา บางรายถูกครอบครัว สามี บุตร ทอดทิ้งต้องดูแลตัวเอง เมื่อได้มาประกอบกิจกรรมผู้สูงอายุร่วมกันกับเพื่อนผู้สูงอายุ จะทำให้เกิดความสุข ลืมทุกข์ไปได้ ระยะหนึ่ง ซึ่งส่วนมากล้วนแล้วแต่เกิดประโยชน์ อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล /นันทพล ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว |
|
|
Date
จันทร์, 29 เมษายน 2024
|