คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จัดงานบีโอไอแฟร์ 2011 ยิ่งใหญ่
วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ศูนย์เศรษฐกิจภาค 4 จังหวัดชลบุรี ร่วมกับคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน จัดแถลงข่าวงานบีโอไอแฟร์ 2011 ณ อาคารศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 โดยมีนายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และนายสุวิชช์ ฉั่ววิเชียร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจภาค 4 จังหวัดชลบุรี ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเชิญชวนประชาชนในจังหวัดชลบุรี ชมงาน นโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2497 โดยรัฐบาลในขณะนั้นประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมอุตสาหกรรม พ.ศ.2497 ซี่งก่อนหน้านี้ รัฐเป็นผู้ลงทุนในอุตสาหกรรม โดยจัดตั้งรัฐวิสาหกิจขึ้นมาดำเนินการ แต่เมื่อประสบกับปัญหารายได้จากการส่งออกข้าวลดลง จนทำให้ขาดดุลชำระเงิน ใน พ.ศ.2496 จึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องลดบทบาทของรัฐให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนแทน โดยรัฐเป็นผู้ให้การสนับสนุน และให้หลักประกันสำหรับนักลงทุนต่างประเทศว่า จะนำเงินกำไรกลับประเทศได้ จึงมีการออกกฎหมายฉบับดังกล่าวขึ้นมา นับเป็นประเทศแรกในภูมิภาคนี้ที่มีกฎหมายเฉพาะเพื่อการส่งเสริมการลงทุนขึ้น อย่างไรก็ตาม ระหว่างปี พ.ศ.2497-2501 ที่มีการใช้กฎหมายฉบับนี้ มีกิจการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพียง 9 ราย และได้รับการอนุมัติเพียง 6 รายเท่านั้น เนื่องจากความไม่ชัดเจนของกฎหมาย ขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติเป็นรายๆไป และต้องใช้เวลานานกว่าจะทราบผล จากอดีตถึงปัจจุบัน การจัดงานบีโอไอแฟร์ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 – 25 พฤศจิกายน 2554 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ 84 พรรษา และยังเป็นการแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย ตลอดจนเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีประโยชน์ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมในอนาคต และการผลิตที่มิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้มีโอกาสมาพบปะเจรจาธุรกิจ และสร้างความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย และเป็นเวทีในการเผยแพร่การดำเนินงานเกี่ยวกับความรับผิดขอบต่อสังคม และการดูแลรักษา ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย สำหรับงานบีโอไอแฟร์ 2011 ได้จัดให้มีพาวิลเลียมของแต่ละบริษัทที่เข้าร่วมงานบริเวณทะเลสาบต่างลงทุนกันเต็มที่ เพื่อแสดงศักยภาพและนวัตกรรมใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน บ้านพลังงานสะอาด สิ่งประดิษฐ์ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล เป็นต้น ยังมีงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย และผู้ประกอบการจากประเทศในด้านต่างๆ อีก 3,000 กว่าบูธ งานบีโอไอแฟร์ 2001 จึงใช้ชื่อว่า โลกสดใส ไทยยั่งยืน หรือ Going Green for the Future เพื่อให้สอดคล่องกับการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญเติบโต ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สังคมไทยก้าวไปสู่สังคมที่ความสุขอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป ส่วนเข้าชมงานนั้น ทางบีโอไอได้จัดให้มีการต้อนรับผู้เข้าชมงานแบบเป็นหมู่คณะขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ โดยบีโอไอได้เตรียมการต้อนรับโดยจัดเจ้าหน้าที่นำชม ที่พร้อมให้คำแนะนำและอธิบายรายละเอียดต่างๆ ภายในงาน หน่วยงานหรือผู้ที่สนใจเข้าชมงานบีโอไอแฟร์ 2011 แบบเป็นหมู่คณะสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ โทรศัพท์ 02-5538100 หรือลงทะเบียนออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.boifair2011.com และเลือกที่หัวข้อ เยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ (Group visit) ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ของงานบีโอไอแฟร์ 2011 สามารถเข้าชมได้ทางเว็บไซต์ www.boifair2011.com ปริญญา/ข่าว/ภาพ |