Home
|
สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงนกกระเรียน |
|
สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงนกกระเรียนสามารถจับคู่ผสมได้ลูกเกิดใหม่ 2 ตัวและพร้อมจัดทำโครงการปล่อยนกกระเรียนคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา
นายทรงกรด ภู่ทอง หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าสถานีเพาะเลี้ยงนกได้ลูกนกกระเรียนเกิดใหม่เพศผู้และเพศเมียจำนวน 2 ตัวซึ่งเกิดจากการจับคู่ผสมของเจ้าหน้าที่และเฝ้าดูแลพฤติกรรมของนกคู่นี้อยู่หลายเดือน ปกติแล้วนกกระเรียนเป็นนกที่จับคู่ยาก และเมื่อจับคู่แล้วจะอยู่ด้วยกันตลอดอายุไข นกกระเรียนมีอายุยืนยาวประมาณ 60 - 70 ปี สำหรับคู่นี้เป็นการผสมพันธุ์โดยธรรมชาติ ทางศูนย์ปล่อยให้นกจับคู่กันอยู่นานและเคยออกไข่มาแล้ว 1 ครั้ง ไข่กลับไม่ฝักตัว ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ของนกกระเรียนคู่นี้ และครั้งนี้ได้ออกไข่และฝักตัวจนสำเร็จ จำนวน 2 ตัว เป็นเพศผู้และเพศเมียทำให้สมาชิกนกกระเรียนในสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระเพิ่มขึ้นอีก และทางสถานีได้เตรียมจัดทำโครงการปล่อยนกกระเรียนคืนสู่ธรรมชาติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา นกกระเรียนจัดอยู่ในวงศ์นกน้ำ มีชื่อสามัญว่า Eastern Sarus Crane เป็นนกน้ำขนาดใหญ่ เมื่อโตเต็มวัยมีขนาดความยาวจากปากถึงปลายหาง ประมาณ 1.8-2.2 เมตร น้ำหนักประมาณ 5 กก. ทั้งเพศผู้และเพศเมีย มีลักษณะรูปร่างและสีขนเหมือนกัน การสืบพันธ์ นกกระเรียนเริ่มจับคู่ผสมพันธ์เมื่ออายุได้ 3-4 ปี การจับคู่ผสมพันธ์ของนกกระเรียน โดยเพศผู้จะอยู่กับเพศเมียเพียงคู่เดียวตลอดทั้งฤดูกาลผสมพันธ์ ช่วยกันสร้างรังและเลี้ยงลูกอ่อน ฤดูผสมพันธ์จะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นฤดูฝนที่มีความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ นกกระเรียนในโลกนี้มีทั้งหมด 17 ชนิด ในจำนวนนี้มี 7 ชนิด ที่หายากและใกล้จะศูนย์พันธุ์ด้วย นกกระเรียนสายพันธ์ไทยได้จัดอยู่ในสถานภาพนี้ด้วยเหมือนกัน ปกตินกกระเรียนจะชอบอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ และบริเวณทุ่งหญ้าที่มีน้ำท่วมขัง โดยอาศัยเป็นคู่ และหากินรวมกันเป็นฝูง อาหารของนกกระเรียน ได้แก่ พวกพืชน้ำและสัตว์น้ำเล็กๆ เช่น กุ้ง ลูกปลา ลูกกบ เป็นต้น |
|
|
Date
จันทร์, 06 พฤษภาคม 2024
|