ฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานชลบุรี พร้อมรับมือภัยแล้งที่มาเร็วโดยจัดทำแผนจัดสรรน้ำ การใช้อุปโภค-บริโภค ภาคอุตสาหกรรม ระบบนิเวศ เกษตร

       นายบุญสม ยุติธรรมภิญโญ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานชลบุรี เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำในจังหวัดชลบุรี 8 แห่ง ระดับน้ำถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา อย่างเช่น อ่างเก็บน้ำบางพระมีน้ำอยู่ที่ 93.307 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำหนองค้อ 18.300 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำบ้านบึง 10.184 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำมาบประชัน 14.310 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำห้วยสะพาน 3.120ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำห้วยขุนจิต 2.184 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำหนองกลางดง 5.117 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำชากนอก 5.117 ล้านลูกบาศก์เมตร ร่วมทั้งสิ้น 8 อ่างมีน้ำ 152.854 ล้านลูกบาศก์เมตร

       ซึ่งทางฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานชลบุรี ได้วางแผนการใช้น้ำในปี 2555 ทั้งการใช้อุปโภค-บริโภค ภาคอุตสาหกรรม ระบบนิเวศ เกษตร ทั้งสิ้นประมาณ 176  ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นภาคอุปโภค-บริโภค 130 ล้านลูกบาศก์เมตร  ภาคอุตสาหกรรม 36 ล้านลูกบาศก์เมตร ภาคระบบนิเวศร่วมกับ เกษตร 4 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงสามารถยืนยันว่าไม่มีปัญหาภัยแล้งในปี 2255 อย่างแน่นอน เพราะสภาพน้ำ ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดเล็กในเขตจังหวัดชลบุรี มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ 

       นอกจากนั้นยังมีโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วในขณะนี้ ซึ่งเมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและขาดแคลนน้ำด้านการเกษตรในพื้นที่อำเภอพนัส, เกาะจันทร์, พานทอง, บ่อทอง และบ้านบึง  
      โครงการวางท่อผันน้ำจากลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ซึ่งเป็นน้ำส่วนเกินที่ท่วมกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ในช่วงฤดูฝนทุกๆ ปี มากักเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำบางพระ ซึ่งถือว่าเป็นแก้มลิงในการกักเก็บน้ำดังกล่าว แต่กลับมาสร้างใช้ประโยชน์ในจังหวัดชลบุรี ที่ยังขาดแคลนน้ำ ซึ่งโครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2553  โดยจะแล้วเสร็จในปี 2556 และถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะปัจจุบันปริมาณน้ำดังกล่าว ได้ไหลทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ในปริมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี แต่สามารถนำมากักเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำบางพระ ในปริมาณ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคตได้ถึง 20 ปี