นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังไม่สามารถรองรับนักลงทุนที่อยากย้ายฐานการผลิตมาอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง แต่แนะนำพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดชลบุรีที่ยังสามารถรองรับได้     

      จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศไทย ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างหนัก โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ถูกกระแสน้ำทำลาย สร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาหลายแห่งถูกน้ำท่วมได้รับความเสีย หายอย่างหนัก อาทิ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนคร, นิคมอุตสาหกรรมโรจนะฯรวมทั้ง นิคมขนาดเล็กก็ถูก น้ำท่วมทำให้นักลงทุนต่างชาติหลายรายอยากย้ายฐานการผลิตมายังนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง

        ซึ่งในเรื่องนี้นายปรีชา จรเณร ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวถึง การบริหารจัดการในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังนั้น ปัจจุบันพื้นที่ในการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังนั้นพื้นที่ได้เต็มหมดแล้วซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ประกอบการและนักลงทุนซึ่งมีนักลงทุนมาติดต่อของเช่าพื้นที่เพื่อหนีปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่พระนคร ศรีอยุธยาและอยากมาลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเราก็แนะนำให้ไปลงทุนในนิคมอื่นในจังหวัดชลบุรีอย่างเช่น นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี นิคมอุตสาหกรรมอิสเทิร์นซีบอร์ด และ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร แต่ก็ต้องยอมรับว่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เป็นพื้นที่แห่งเดียวที่นักลงทุนมีความต้องการสูง เนื่องจาก มีทั้งท่าเรือแหลมฉบัง กลุ่มพลังงาน และสำนักงานศุลกากร ซึ่งมีความพร้อมเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยระบบการขนส่งสินค้าที่สะดวกสบาย แต่พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมเราไม่สามารถขยายพื้นที่ออกไปได้อีกเพราะพื้นที่เรามีเพียง 3,556 ไร่ และมีโรงงานและบริษัทรวม 140 แห่งมีแรงงานประมาณ 60,000 คน