นักรบรีคอนทุกคนจะต้องผ่านการฝึกอันสุดหฤโหดชนิดที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนตลอดระยะเวลาเกือบ 3 เดือน แต่เมื่อสามารถเอาชนะความยากลำบากนั้นมาจนได้ประดับเครื่องหมายการรบ”สามมิติ” บนหน้าอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่ง "นักรบรีคอน" นั่นแหละคือความภาคภูมิใจสูงสุดอย่างหนึ่งของชีวิตลูกผู้ชาย ผู้ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ 

      ในวันนี้ (8 มี.ค.55) พลเรือโท พงศ์ศักดิ์  ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธี มอบประกาศนียบัตร เครื่องหมายความสามารถ และปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการรบพิเศษ แขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจมนาวิกโยธิน รุ่นที่  42  ประจำปี  2555  ณ หอประชุมศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  โดยมีพละเรือตรี นพพร วุฒิรณฤทธิ์ ผู้บัญชาการศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินพร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมให้การต้อนรับและร่วมในพิธีปิดการฝึกอบรมในวันนี้

       ตามอนุมัติ กองทัพเรือ ให้หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน  เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการรบพิเศษ  แขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจมนาวิกโยธิน  รุ่นที่  42  ประจำปี  2555  มีหน่วยต่างๆ  ภายในและภายนอกกองทัพเรือ ส่งข้าราชการมาทำการทดสอบร่างกายและตรวจสุขภาพ  จำนวน  99  นาย  ผ่านการทดสอบร่างกายและตรวจสุขภาพ มีสิทธิ์เข้ารับการฝึกอบรม   84  นาย  ดำเนินการฝึกอบรมมา ตั้งแต่วันที่  7  ธันวาคม  2554  รวมระยะเวลาในการฝึกอบรม  13  สัปดาห์  โดยแบ่งการฝึกอบรมออกเป็น  2  ขั้นตอน  ขั้นตอนที่  1  การฝึกอบรมภาคทฤษฎี ประมาณ  5  สัปดาห์  ระหว่างการฝึกอบรมมีนักเรียนป่วยต้องพักรักษาตัวตามความเห็นของแพทย์และต้องพ้นจากฐานะนักเรียน  24  นาย  คงเหลือผู้เข้ารับการฝึกอบรม  60  นาย  ขั้นตอนที่  2  การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ เป็นการฝึกภาคการปฏิบัติประกอบปัญหาในการฝึก เพื่อเพิ่มความชำนาญและประสบการณ์ได้แก่  การฝึกภาคการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกหรือภาคทะเล 4  สัปดาห์ โดยใช้พื้นที่การฝึกบริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี ถึง  จังหวัดสงขลา  และชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก  ตั้งแต่จังหวัดชลบุรี  ถึงจังหวัดตราด  โดยกองเรือยุทธการ ได้ให้การสนับสนุนเรือหลวงสุรินทร์เข้าทำการฝึก ทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับความรู้และประสบการณ์เป็นอย่างดี  ในภาคนี้มีนักเรียนป่วยต้องพักรักษาตัวตามความเห็นของแพทย์จนกระทั่งพ้นจากฐานะนักเรียน 3  นาย  คงเหลือผู้เข้ารับการฝึกอบรม  57  นาย  การฝึกภาคการรบภายใต้สภาพพิเศษหรือภาคป่าและภูเขา ได้ทำการฝึกในพื้นที่จังหวัดชลบุรี  จังหวัดระยอง  จังหวัดจันทบุรี  และจังหวัดตราด  ระยะเวลาในการฝึก  4  สัปดาห์  ตลอดระยะเวลาในการฝึกอบรมผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนมีความตั้งใจได้แสดงออกถึงความเข้มแข็งทางด้านร่างกาย  และจิตใจ มีความอดทน  มีระเบียบวินัย  และลักษณะผู้นำทางทหารอย่างดียิ่ง  สามารถผ่านการทดสอบตามขั้นตอนต่างๆ  ตลอดจนการฝึกภาคปฏิบัติประกอบปัญหาสมมุติที่กำหนดขึ้นในภูมิประเทศจริง  มีความรู้ความสามารถครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และสำเร็จการฝึกอบรมรวมทั้งสิ้น  57  นาย จากจำนวน 99 นาย แบ่งเป็น สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินเป็น นายทหารสัญญาบัตร 1  นาย นายทหารประทวน 46  นาย  สังกัดหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ  เป็น  นายทหารประทวน 4 นาย  สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นนายทหารประทวน 1  นาย สังกัดกองทัพบกเป็น นายทหารสัญญาบัตร  1 นาย  นายทหารประทวน 1  นาย สังกัดกองทัพอากาศ  เป็น  นายทหารประทวน 1 นาย  และสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็น  นายตำรวจสัญญาบัตร 1 นาย  และนายตำรวจชั้นประทวน 1  นาย โดยผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้มอบประกาศนียบัตร และเครื่องหมายความสามารถให้กับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในวันนี้ทุกนายด้วยตัวเอง ยังความภาคภูมิใจให้กับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในวันนี้เป็นอย่างยิ่ง 

      พร้อมกับกล่าวแสดงความยินดีและให้โอวาทกับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในวันนี้ทุกคนว่า หลักสูตรการรบพิเศษ แขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจมนาวิกโยธิน  เป็นหลักสูตรที่มีความสำคัญยิ่งต่อหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ มีความมุ่งหมายที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถขององค์บุคคล ให้มีความสามารถในการนำหน่วยทหารขนาดเล็กสามารถทำการรบได้ทั้งบนบก   ในทะเล และ ด้วยความเป็นหน่วยรบแรกที่ต้องเข้าพื้นที่ข้าศึก จึงต้องฝึกการส่งกำลังทางอากาศ และปฏิบัติภารกิจแบบฉับพลันทางทะเล ทุกคนจะต้องถูกฝึกยุทธวิธีรบหลากหลายรูปแบบให้เชี่ยวชาญการรบทั้งในน้ำ บนฟ้า และผืนฝั่ง จนได้รับฉายาว่า "นักรบสามมิติ" ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นผู้นำหลักของหน่วยทหารขนาดเล็กแล้ว ผู้ที่สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรนี้ ยังเป็นผู้ที่ได้แสดงออกถึง  ความเข้มแข็ง  อดทน  มีวินัย  และมีลักษณะของความเป็นผู้นำเป็นที่ชื่นชมและภาคภูมิใจของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และกองทัพเรือตลอดมา  และทราบดีว่าผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมทุกคนได้ประพฤติปฏิบัติตนในกรอบที่หลักสูตรกำหนด จนสามารถผ่านการฝึกอันยากลำบาก  และเสี่ยงอันตรายจนสำเร็จการฝึกอบรม จึงขอแสดงความชื่นชมและความยินดีด้วยความจริงใจ  

      หลักสูตรนี้นอกจากจะเพิ่มขีดความสามารถขององค์บุคคลแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับและติดตัวไปคือ ความเข้าใจที่ดีต่อกัน การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการปฏิบัติงาน อันจะทำให้เกิดประโยชน์ในการทำงานอย่างสูงสุดต่อไปในอนาคต  และอย่าได้หยุดยั้งในการพัฒนาตนเอง จงใฝ่หาความรู้ และพัฒนาการทางทหารทุกรูปแบบ เพื่อที่จะช่วยกันพัฒนาหน่วยให้มีประสิทธิภาพยิ่งๆ ขึ้น  เป็นการเสริมสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติต่อไปอีกด้วย 

 
อุดมเกียรติ  ทิพย์ศรีกุล/นันทพล  ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 081-3455203/087-5871068