กองทัพเรือร่วมกับอำเภอสัตหีบนำกำลังกว่า 100 นายเข้าทำการรื้อถอนโครงเหล็กตลาดศิวนราถบ้านเตาถ่าน 700 ไร่ นำรถยนต์และข้าวของออกมาส่งคืนให้กับพ่อค้าแม่ค้า

            สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่  4 มิถุนายน 2552  เวลา 18.00 น.ได้เกิดพายุฝนกระหน่ำพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เกือบเกิดโศกนาถกรรมใหญ่ เนื่องจากพายุงวงช้างได้พัดหมุนทำให้เสาไฟฟ้าล้ม ยกเต๊นผ้าใบโครงเหล็ก จำนวน 60 หลัง ขึ้นเหนือพื้นม้วนพลิกขาเหล็กชี้ฟ้า ตกลงมาทับรถเก๋ง รถกระบะ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนที่เข้ามาซื้ออาหาร ของใช้ภายในตลาดศิวนราถบ้านเตาถ่าน 700 ไร่ ประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยนับพันคนได้วิ่งหนีกระเจิงเอาชีวิตรอดท่ามกลางสายฝนกระหน่ำอย่างแรงจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบรายซึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน  9 ราย ได้แก่ นางสาวแสงจันทร์ เงินมาก อายุ 44 ปี ถูกเสาไฟฟ้าทับอาการบาดเจ็บตามร่างกาย นายนพพร แย้มบุบผา อายุ 45 ปี ใต้คางแตก นางศศิประภา เท็ลลิ่ง อายุ 35 ปี ศีรษะแตก นางพวงแก้ว อัมรินทร์รัตน์ อายุ 64  ปี  จ่าเอกสำเริง  มุสิตมณี อายุ 46 ปี  นางธนิญญา เฉลียวฉลาด อายุ 39 ปี นายพะเยาว์ บุญนุกูล อายุ 71 ปี นางอุบล บุญนุกูล อายุ 64 ปี สองสามีภรรยาที่เข้าไปซื้ออาหาร และ นายบุญช่วย บุญไชโย อายุ 43 ปี พ่อค้าขายสินค้าเก่า  นั้น

            ความคืบหน้าในวันนี้ 5 มิ.ย. 52 นายชายชาญ  เอี่ยมเจริญ  นายอำเภอสัตหีบ ได้มอบหมายให้ นางสายสุนีย์    ปานเพ็ชร  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 นำกำลังอาสาสมัครเข้าทำการช่วยเหลือพร้อมกับประสานงานไปยัง นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสัตหีบขอกำลังเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองสัตหีบและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ นำอุปกรณ์เครื่องตักเหล็กมาช่วยกันตัดโครงสร้างเหล็กออก โดยมีกำลังทหารจากกรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน และกองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือส่งกำลังทหารกว่า100 นาย พร้อมอุปกรณ์ตัดเหล็กเข้ามาช่วยเหลืออีกด้วยโดยมี รถแบร็คโฮในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยเคลียร์พื้นที่ ยกเต้นท์ออก ทยอยนำรถเก๋ง รถกระบะ รถจักรยานยนต์ ทรัพย์สิน สินค้าของพ่อค้า แม่ค้า ที่พังยับเยิน ออกมา

            นางสายสุนีย์    ปานเพ็ชร  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 หลังจากที่ทางนายชายชาญ  เอี่ยมเจริญ  นายอำเภอสัตหีบ ได้ทราบข่าวกับเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ประสานงานมากับตนเนื่องจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตุพื้นที่รับผิดชอบของตน ตนจึงได้ทำการติดต่อประสานงานไปยังกรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน และกองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน  ซึ่งได้รับการสนับสนุนนำกำลังทหารกว่า100 นาย พร้อมอุปกรณ์ตัดเหล็กเข้ามาทำการช่วยเหลือเป็นอย่างดีอีกด้วย

นิราช   ทิพย์ศรี  ภาพ / ข่าว