“บัวขาว” โผล่เซอร์ไพรส์ ขึ้นชกมวยไทยไฟท์ที่แหลมบาลีฮาย เจ้าตัวเผยบนเวทีมาทำหน้าที่นักมวย “ถึงติดคุกก็ยอม”

     เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 เม.ย.55 ที่ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ได้มีการจัดการแข่งขันมวยรายการไทยไฟท์ 2012 ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติแห่เข้าร่วมชมนับหมื่นคน

      ส่วนไฮไลท์ที่สื่อมวลชนสนใจคือการที่นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว ป.ประมุข จะขึ้นชกในครั้งนี้หรือไม่ หลังมีข่าวขัดแย้งกับทางเจ้าของค่าย ป.ประมุข จนตัวเองต้องหนีออกจากค่ายกลับบ้านเกิดใน จ.สุรินทร์ ซึ่งผลปรากฏว่า บัวขาว ได้โผล่มาเซอร์ไพส์ขึ้นชกกับ รัสเท็ม ซาริโพ้ว จากรัสเซีย ในคู่ที่ 4 ซึ่งผลการชกปรากฏว่าบัวขาว สามารถเอาชนะน็อคได้ในยกที่ 2 ซึ่งหลังการชกบัวขาวได้กล่าวบนเวทีทั้งน้ำตาว่า ในฐานะที่เป็นนักมวย ในฐานะที่เป็นเจ้าของแชมป์ถ้วยพระราชทานมวยรายการนี้เมื่อปีที่แล้ว ตนจึงต้องมาทำหน้าที่นักมวยด้วยการขึ้นชก ถึงแม้ว่าจะติดคุกก็ยอม จากนั้นนายเลง บัญชาเมฆ บิดาของบัวขาว ได้ขึ้นไปเวที และทางบัวขาวก็ได้ก้มลงกราบแทบเท้า สร้างความประทับใจและได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมรอบสนาม

     จากนั้นบัวขาว ได้เปิดแถลงข่าว พร้อมกับกล่าวว่า “ในใจผมไม่อยากจะพูดเรื่องนี้หลายครั้ง ไม่อยากแถลงข่าวหลายรอบ แต่ผมก็ยังคิดถึงบุญคุณของทางค่าย ป.ประมุข เพราะอยู่ด้วยกันมาหลายปี แต่มีหลายเรื่องราวที่ต้องอดทนมาหลายปี แต่ก็ไม่อยากระบุมาก สิ่งที่อยากออกมาพูดนั้นเป็นความอึดอัดใจไม่สบายใจส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องความไม่ชัดเจน มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจริงแล้วเป็นปัญหาหลัก แต่ไม่อยากให้ทางค่ายเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าได้เงินค่าตัวเท่าไหร่ และไม่เคยมีสิทธิ์ได้รับรู้ เวลาซ้อมจนบาดเจ็บก็ไม่เคยบ่นไม่เคยพูด ต้องเก็บเอาไว้ในใจ เพราะถ้าบ่นแล้วกลัวทางค่ายไม่พอใจ จะหาว่าขี้เกียจซ้อมหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่ทำมีความกดดันและเก็บไว้ในใจตลอด และขอลอกว่าทางค่าย ป.ประมุขยังติดเงินที่ยืมผมจำนวนหนึ่ง แต่ทางค่าย ป.ประมุข ไม่ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้เลย

     นายสมบัติ บัญชาเมฆ เผยต่อไปว่าส่วนเรื่องเงินมีปัญหามานานแล้ว แต่ไม่กล้าจะเอ่ยปากถาม จึงต้องเก็บเอาไว้ในใจอย่างเดียว และไม่เคยคุยกับทางค่ายมาเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว ความต้องกาในตอนนี้คืออยากออกมาประกาศว่าเป็นอิสระแล้ว ไม่กลับไปค่าย ป.ประมุข อีกแน่นอน ส่วนการที่จะชกต่อไปหรือไม่นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นตัดสินใจ
     ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า ขณะนี้ทางบัวขาวมีสัญญาอยู่กับค่าย ป.ประมุข กี่ปี บัวขาวบอกว่า ขณะนี้เหลือระยะเวลาสัญญาอยู่ 5 ปี ซึ่งเรื่องสัญญาที่คาใจอยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป หรือจะเข้าไปคุยกับทางเจ้าของค่ายหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ขอตอบขอให้เป็นเรื่องของอนาคต ส่วนเรื่องมือที่สาม นั้นไม่มีแน่นอน
     “ผมได้โทรศัพท์ไปที่บ้านเพื่อปรึกษาพ่อ พ่อก็บอกว่าหากทนไม่ไหวก็ให้ออกมา คือขณะนั้นผมไม่มีใครให้คำปรึกษา ก็มีพ่อคนเดียวที่สามารถพึ่งได้ และเป็นการตัดสินใจของตัวผมเอง ในส่วนที่ผมพูดบนเวทีว่า หากขึ้นชกในครั้งนี้ถึงแม้จะติดคุกก็ยอม ถ้าหากว่าคดีมันร้ายแรง สิ่งที่ผมทำลงไปแล้วมันผิดจนอภัยไม่ได้ ถึงติดคุกผมก็ยอม แต่ถ้าไม่ติดคุกอนาคตข้างหน้าผมอยากจะบอกทุกคนว่า ในขณะนี้ตนได้จดทะเบียนเป็นหัวหน้าค่ายมวยใหม่แล้วคือค่าย “บัญชาเมฆ” และตอนนี้มีนักมวยในสังกัดแล้ว 1 คน หากใครมีความสนใจหรืออยากจะเป็นนักมวยในสังกัดก็สามารถสมัครได้ ส่วนการชกครั้งต่อไปจะใช้ชื่ออะไรนั้น เรื่องนี้ตนยังตอบไม่ได้” บัวขาวกล่าว

อุดมเกียรติ  ทิพย์ศรีกุล  อ.สัตหีบ  จ.ชลบุรี   081-3455203